Business Process Outsource หนึ่งในกลยุทธ์ ลดต้นทุนแรงงาน

SO สยามราชธานี Siamrajathanee Outsource คือ Outsourcing Service Solution bpo

Business Process Outsource หรือ BPO คืออะไร

Business Process Outsource หรือ BPO คือ การมอบระบบงานบางส่วน มาให้บุคคลภายนอกรับผิดชอบแทน ลูกค้าจึงจ้างบริษัท Outsource เพื่อให้บริษัทเหล่านั้นจัดหาคนทำงานให้ในส่วนต่างๆ ที่ไม่ได้เป็นงานแกนหลักของบริษัทลูกค้า ในปัจจุบัน บริษัทต่างๆ ต่างมุ่งมั่นขยายกิจการ เติบโตอย่างยั่งยืน ทว่าอุปสรรคสำคัญประการหนึ่ง คือ ต้นทุนแรงงาน การจ้างพนักงานประจำใหม่ ต้องเผชิญค่าใช้จ่ายมหาศาล ทั้งค่าจ้าง สวัสดิการ อุปกรณ์สำนักงาน พื้นที่ทำงาน ฯลฯ

BPO กับการลดต้นทุนด้านแรงงาน

การลดต้นทุนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หนึ่งในต้นทุนที่สำคัญที่สุดคือ ต้นทุนแรงงาน การลดต้นทุนแรงงานจึงเป็นกลยุทธ์ที่หลายธุรกิจใช้อย่างแพร่หลาย แต่ว่า การลดต้นทุนแรงงานนั้น ไม่ใช่แค่การไล่พนักงานออก หรือลดค่าจ้างเสมอไป ยังมีวิธีการอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถลดต้นทุนแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของพนักงาน

BPO จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญ ที่สามารถตอบโจทย์ของ ธุรกิจในยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว เพราะ BPO ไม่เพียงแต่ลดจำนวนบุคคลกรภายในองค์เท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยลดกระบวนการหรือขั้นตอนทำงานได้มาก อีกทั้งไม่ต้องกังวลกับงานที่มีรายละเอียดยิบย่อย ทำให้ธุรกิจได้โฟกัสกับการทำงานหลักของธุรกิจตัวเองได้ดีขึ้น โดยมีการทำสัญญากันเป็นรายปี ช่วยลดค่าใช้จ่ายองค์กรลูกค้า พร้อมกับได้งานที่มีประสิทธิภาพและมีความยืดหยุ่น ใช้ต้นทุนต่ำกว่าการจ้างพนักงานประจำ และมีคนทำงานให้ตลอด

Case study

บริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ประสบปัญหาต้นทุนการดำเนินงานที่สูง โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการบัญชีและภาษี เนื่องจากมีงานเอกสารจำนวนมากและกฎระเบียบที่ซับซ้อน ส่งผลต่อภาระงานของพนักงานประจำที่ต้องจัดการงานด้านอื่นๆ เพิ่มเติม บริษัทจึงได้ตัดสินใจจ้าง BPO เข้ามาดูแลงานบัญชีและภาษีแทนพนักงานประจำ โดย BPO มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีระบบและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทีมงานมีประสบการณ์ และเข้าใจกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถช่วยให้ บริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการบัญชีและภาษีได้ถึง 20% เนื่องจาก BPO สามารถบริหารจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น และใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย

บริการบริหารข้อมูล ภายในองค์กร และจัดหาพนักงาน IT Outsource

So Next มุ่งเน้นให้บริการด้าน Lean Transformation และ Digitalization ในองค์กร ผ่านการให้คำปรึกษา ออกแบบกระบวนการ ค้นหาเครื่องมือที่เหมาะสม และบริหารโครงการ โดยมีเป้าหมายให้ลูกค้าสามารถโฟกัสที่ธุรกิจหลัก ปรับขนาดธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น ลดความเสี่ยง และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในองค์กร

สนใจบริการ

ข้อดีของ Business Process Outsourcing จาก SO NEXT

1.การลดต้นทุน การจ้างพนักงานประจำเพิ่ม มีค่าใช้จ่ายที่มากว่าจ้าง BPO การจ้าง BPO สำหรับงานที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักของคุณอาจมีราคาประหยัดกว่าการจ้างทีมภายใน SO NEXT มอบประหยัดต่อขนาดและเข้าถึงแหล่งทักษะที่กว้างขึ้น ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนโดยรวมของคุณ

2.ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางคอยสนับสนุนการทำงาน บริการ BPO จาก SO NEXT มีผู้เชี่ยวชาญงานเฉพาะทาง ซึ่งอาจช่วยปรับประสิทธิภาพการดำเนินงานของคุณและเพิ่มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังอาจเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดให้กับบริษัทคุณ

3.การมุ่งเน้นที่เพิ่มขึ้น ให้คุณมุ่งเน้นไปที่ core business ได้อย่างเต็มที่ เมื่อจ้างงานภายนอก คุณสามารถใช้ทรัพยากรภายในของคุณเพื่อมุ่งเน้นไปที่กิจกรรมทางธุรกิจหลัก สิ่งนี้อาจนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมและการวางแผนเชิงกลยุทธ์ที่ดียิ่งขึ้น

4.การเข้าถึงความเชี่ยวชาญ สรรหาทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะและความรู้เฉพาะทางที่คุณอาจไม่มีภายในองค์กร SO NEXT มีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะและความรู้เฉพาะทางที่คุณอาจไม่มีภายในองค์กร สิ่งนี้อาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับงานที่ซับซ้อนหรืออุตสาหกรรมเฉพาะ

5.การปรับลดขนาดองค์กรได้ดีขึ้น ลดหรือเพิ่มพนักงานได้โดยไม่กระทบต่อธุรกิจหลัก สามารถปรับขนาดทรัพยากรของตนขึ้นหรือลงได้อย่างง่ายดายเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของคุณ สิ่งนี้อาจเป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจที่ประสบกับความผันผวนตามฤดูกาลหรือกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

การใช้บริการ BPO ของ SO Next จะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง ลดต้นทุนการดำเนินงาน และเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม ทั้งหมดนี้เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตและมีความแข็งแกร่งในการแข่งขัน สามารถมุ่งเน้นไปที่ core business ของคุณได้อย่างเต็มที่

siamrajathanee-so

SO ผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์สแบบครบวงจร หนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย ที่นำ Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น และทาง SO ยังมีการเพิ่มศัพยภาพที่แข็งแกร่งอย่างไม่หยุดนิ่งด้วยการที่มีพันธมิตรทางธุรกิจหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรทั้งไทยและทั่วโลก เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า ด้วยบริการที่ครอบคุลมและพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการในการพัฒนาธุรกิจ

Service 4 Level สำหรับทุกธุรกิจลูกค้า
1. Workforce Outsource บริการด้านบุคลากรในตำแหน่งต่างๆ เริ่มตั้งแต่การสรรหา การบริหารกำลังคน ไปจนถึงขั้นตอนการจัดการเรื่อง Payroll ครบทั้งกระบวนการ ปัจจุบัน SO บริหารบุคลากรกว่า 10,000 อัตรา ทั้งหน่วยงานราชการ และเอกชนกว่า 450 หน่วยงาน ทั่วประเทศ
2. Business Process Outsource (BPO) พัฒนาออกแบบ และบริหารจัดการกระบวนการทางธุรกิจ ที่เหมาะสมให้กับลูกค้า ด้วยการใช้ทรัพยากรด้านแรงงาน และเทคโนโลยี เพื่อการยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์ให้อยู่เหนือคู่แข่งของลูกค้า
3. Specialized Outsource บริการผู้เชี่ยวชาญสำหรับงานเฉพาะด้าน เช่น “รุกขกร” งานด้านตัดแต่งต้นไม้ และดูแลภูมิทัศน์ขนาดใหญ่, งานด้านการกำจัดของเสียสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม, การจัดหารรถพร้อมดัดแปลง และจดประกอบสำหรับงาน Logistic
4. IT Outsource & Platform บริการด้านการจัดหาบุคลากรด้าน IT และเทคโนโลยีผัจจุบัน เพื่อการพัฒนากระบวนการทำงาน เช่น เทคโนโลยี RPA, AI, OCR ฯลฯ พร้อมกับระบบที่ทาง SO พัฒนาขึ้น เช่น Digital Signature, ระบบ Time Attendance และระบบ Business Process Management (BPM)
 
จาก 4 Resource ของ SO ซึ่งเป็นส่วนหลักในการเติมเต็มให้กับ Service ทั้ง 4 Level
1.SO People ทรัพยากรด้ารบุคลากร มีความชำนาญด้านการสรรหา และคัดสรร พร้อมทั้งการพัฒนาทักษะให้กับพนักงานทุกท่าน ก่อนการจัดส่งให้บริการลูกค้า
2.SO Wheel จัดหารถเช่าทั่วไป และรถ EV ทุกประเภท พร้อมทั้งบริการดัดแปลงรถให้เหมาะสมกับธุรกิจลูกค้าตามต้องการ
3.SO Green ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการภูมทัศน์ หรือพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ทั้งการออกแบบ การดูแลต้นไม้ และสภาพแวดล้อมทั้งหมดในพื้นที่
4. SO Next บริหารจัดการข้อมูล หรือเอกสารจำนวนมาก และออกแบบกระบวนการทำงานให้กับธุรกิจลูกค้า ด้วย Lean & Digitize เพื่อการ Transformation อย่างมีประสิทธิภาพ
 

เป้าหมายของ SO คือการเป็นพันธมิตรและที่ปรึกษาให้แก่ลูกค้า โดยการมีส่วนร่วมในการกำหนดกลยุทธ์และนโยบายสำหรับการดำเนินธุรกิจ ด้วยบริการ Outsource แบบผสานงานด้านบุคลากร และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน  เรียกว่า Tech-Enabled Outsourcing Solution เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน พร้อมนำเสนอวิธีการในการแก้ปัญหาที่เหมาะสมสำหรับทุกธุรกิจ

การเอาท์ซอร์สช่วยให้องค์กรมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักได้อย่างเต็มที่ มีความยืดหยุ่นในการปรับขนาดธุรกิจตามสถานการณ์ ถ่ายโอนความเสี่ยงต่างๆ ให้ SO จัดการ พร้อมเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่และนำหน้าคู่แข่ง เป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ตามแนวคิด "Unlock Possibilities, SO Here We Are"

บริษัทจัดหาพนักงาน ที่มอบ Service Mind หัวใจสำคัญที่เหนือกว่า AI & Automation

SO สยามราชธานี Siamrajathanee Outsource คือ Outsourcing Service Solution human-ai

แม้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติ (Automation) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในภาคธุรกิจมากขึ้น แต่ Service Mind กลับกลายเป็นหัวใจสำคัญ ที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นเหนือคู่แข่ง So People บริษัทจัดหาพนักงาน เชื่อว่า การบริการที่ดีเลิศ เปรียบเสมือนกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณก้าวไปสู่ความสำเร็จ ธุรกิจที่ต้องอาศัยพนักงานคอยส่งมอบบริการให้กับลูกค้า การปลูกฝัง Service Mind ให้กับพนักงานทุกคนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง 

หลายคนอาจมองข้ามความสำคัญของ “Service Mind” หรือ “หัวใจบริการ” แต่แท้จริงแล้ว Service Mind ยังคงเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณโดดเด่น เป็นที่น่าจดจำ สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า และนำไปสู่ความสำเร็จให้ธุรกิจอย่างยั่งยืน

Service Mind คืออะไร? 

Service Mind คือ หัวใจของการบริการที่ดี หมายถึง ความตั้งใจ มุ่งมั่น ใส่ใจ และเต็มใจที่จะให้บริการลูกค้าอย่างดีที่สุด มุ่งเน้นสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า

SERVICE การบริการ
Smile (ยิ้ม) ยิ้มแย้ม แจ่มใส ในการบริการ เพื่อสร้างความรู้สึกดีๆให้เกิดขึ้นกับลูกค้า
Enthusiasm (ความกระตือรือร้น) ให้บริการด้วยความกระตือรือร้น พร้อมให้ความช่วยเหลือทุกเมื่อ
Rapidness (ความรวดเร็ว) มีความกระฉับกระเฉง การบริการอย่างรวดเร็ว ทันท่วงที
Value (การบริการให้มีคุณค่า) สร้างคุณค่าในงานบริการ ที่จะช่วยให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ
Impression (สร้างความประทับใจแรกพบ) บริการอย่างประทับใจ แสดงถึงความมีจิตใจในการบริการ
Courtesy (ความอ่อนน้อมถ่อมตน) ความสุภาพอ่อนน้อม มีใจรักในงานบริการ ทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจ
Endurance (ความอดทน) มีความอดทน ต้องรู้จักจัดการและควบคุมอารมณ์

MIND จิตใจ
Make Believe (การมีความเชื่อในงานที่ทำ) มีความเชื่อในสิ่งที่ถูกต้อง มีความสุขและรักในงานบริการ
Insist (ยืนหยัดในสิ่งที่ทำ) มีความมุ่งมั่นยืนหยัดในสิ่งที่ทำ ไม่ท้อถอยต่ออุปสรรคที่พบเจอ
Necessitate (เพราะลูกค้าคือคนสำคัญ) ทำให้ลูกค้าทุกคนเป็นคนพิเศษ ไม่แบ่งแยกหรือเลือกบริการ
Devote (ทุ่มเทและเอาใจใส่ต่องานบริการ) ทำอย่างเต็มความสามารถ ทุ่มเททำงานด้วยใจ

 

ในยุค AI & Automation ทำไม Service Mind ยังสำคัญกับ บริษัทจัดหาพนักงาน

    • สร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่า แม้ AI จะทำงานได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่สามารถทดแทนความใส่ใจ ความเข้าใจ และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้เท่ากับมนุษย์ที่มี Service Mind
    • สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า Service Mind ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และความรู้สึกผูกพันระหว่างลูกค้ากับธุรกิจ
    • แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า พนักงานที่มี Service Mind สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง AI ยังไม่สามารถทดแทนได้
    • สร้างความประทับใจ การบริการที่ยอดเยี่ยมจากพนักงานที่มี Service Mind สามารถสร้างความประทับใจที่ลูกค้าไม่สามารถลืมเลือนได้
    • สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ในยุคที่ AI & Automation แพร่หลาย Service Mind กลายเป็นจุดแข็งที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณแตกต่างจากคู่แข่ง

การเสริม Service Mind ให้กับพนักงานในยุค AI & Automation

    • เน้นทักษะด้าน Soft Skills พัฒนา Soft Skills เช่น ทักษะการสื่อสาร ทักษะการแก้ไขปัญหา และทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น
    • ส่งเสริมให้พนักงานเป็นที่ปรึกษา: พัฒนาศักยภาพของพนักงานให้เป็นที่ปรึกษา สามารถให้คำแนะนำ และแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้อย่างตรงจุด
    • สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้น Service Mind ผู้นำองค์กรต้องเป็นตัวอย่างที่ดี แสดงให้เห็นถึง Service Mind ที่ชัดเจน
    • ฝึกอบรมพนักงาน จัดอบรมพนักงานเกี่ยวกับ Service Mind เทคนิคการบริการลูกค้า การสื่อสาร และการแก้ปัญหา
    • ส่งเสริมการเรียนรู้ สนับสนุนให้พนักงานเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ พัฒนาตนเอง
    • ให้รางวัล มอบรางวัลให้กับพนักงานที่มี Service Mind ดีเยี่ยม
    • สร้างโอกาสให้พนักงานใช้ Service Mind มอบหมายงานที่ต้องใช้ Service Mind ให้กับพนักงาน

So People บริษัทจัดหาพนักงาน ให้ความสำคัญของ กลยุทธ์การปลูกฝัง Service Mind ให้กับพนักงานในยุค AI & Automation และยังมีกระบวนการคัดสรรพนักงานกว่า 8 ขั้นตอน จนไปสู่กระบวนการส่งมอบพนักงานที่ดีที่สุด และเหมาะสมต่อการทำงานในแต่ละตำแหน่งตามที่ลูกค้าต้องการ

ที่ปรึกษาด้านการบริหารบุคคลากร ให้บริการจัดหาด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน Recruit Management พร้อมทีม Training อบรมทักษะพนักงานก่อนการเริ่มงาน เสริมด้วยเทคโนโลยี Payroll Management System เพื่อการบริหารจัดการที่ถูกต้อง แม่นยำ เพิ่มศักยภาพให้กับกระบวนการมากยิ่งขึ้น

ต้องการคำปรึกษา

8 ขั้นตอนคัดสรรพนักงาน จาก บริษัทจัดหาพนักงาน

ที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลทุกขั้นตอน จนสิ้นสุดไปเป็น Resume ให้กับลูกค้าของเรา

    • Check Document ตรวจสอบเอกสารต่างๆของพนักงาน มั่นใจได้ว่าเอกสารและข้อมูลทุกอย่างถูกต้อง
    • First Interview สัมภาษณ์พนักงานเบื้องต้น เพื่อประเมินภาพรวมพื้นฐานของพนักงาน
    • Ms. Office Test ทดสอบการใช้งาน Microsoft Office ระดับพื้นฐาน เพื่อคัดกรองความสามารถ
    • Eng Skill วัดระดับความสามารถทางภาษา หากต้องการพนักงานที่มีทักษะ เราจัดหาให้ได้
    • Behavior test DISC การคัดทัศนะคติ เพื่อประเมินพฤติกรรมไปสู่ความเหมาะสมในการทำงาน
    • Interview with Specialist สัมภาษณ์พนักงานโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจในทักษะเฉพาะของพนักงาน
    • Crime Records Check การตรวจประวัติอาชญากรรม เพื่อความปลอดภัยและคามมั่นใจ
    • Old work History Check ตรวจสอบประวัติจากที่ทำงานเดิม เพื่อยืนยันและเช็คพฤติกรรมของพนักงาน

เพราะเราเข้าใจดีว่า

    • ในยุคดิจิทัล AI & Automation ไม่ได้ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
    • พนักงานที่มี Service Mind ต่างหากที่สร้างความประทับใจให้ลูกค้า
    • Service Mind คือหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไกล

So People จึงพร้อมคัดสรรบุคลากรที่มี Service Mind ล้ำเลิศ ใส่ใจลูกค้า เข้าใจธุรกิจของคุณ

ด้วยบริการที่ครบวงจร

✅ คัดกรองคุณสมบัติ ตรงตามความต้องการ
✅ ดูแลจัดการพนักงานจนพร้อมเริ่มงาน
✅ จัดการเอกสาร พร้อมบริหารจัดการทุกเรื่องพนักงาน
✅ บริหารจัดการความเสี่ยงทุกอย่างแทนคุณ
✅ ออกแบบและมอบ Solutions ที่ดีที่สุดให้ธุรกิจ
✅ เป็นพันธมิตรที่ไว้ใจได้ มุ่งมั่นสู่ความสำเร็จร่วมกับคุณ

Service Mind คือ หัวใจของการบริการที่ดี หมายถึง ความตั้งใจ มุ่งมั่น ใส่ใจ และเต็มใจที่จะให้บริการลูกค้าอย่างดีที่สุด มุ่งเน้นสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ในยุคดิจิทัลที่ AI & Automation เข้ามามีบทบาทสำคัญ แต่ Service Mind ยังคงเป็นหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไกล So People เข้าใจดีว่า พนักงานที่มี Service Mind ต่างหากที่สร้างความประทับใจให้ลูกค้า เราจึงพร้อมคัดสรรบุคลากรที่มี Service Mind ล้ำเลิศ ใส่ใจลูกค้า เข้าใจธุรกิจของคุณ

siamrajathanee-so

SO ผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์สแบบครบวงจร หนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย ที่นำ Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น และทาง SO ยังมีการเพิ่มศัพยภาพที่แข็งแกร่งอย่างไม่หยุดนิ่งด้วยการที่มีพันธมิตรทางธุรกิจหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรทั้งไทยและทั่วโลก เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า ด้วยบริการที่ครอบคุลมและพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการในการพัฒนาธุรกิจ

Service 4 Level สำหรับทุกธุรกิจลูกค้า
1. Workforce Outsource บริการด้านบุคลากรในตำแหน่งต่างๆ เริ่มตั้งแต่การสรรหา การบริหารกำลังคน ไปจนถึงขั้นตอนการจัดการเรื่อง Payroll ครบทั้งกระบวนการ ปัจจุบัน SO บริหารบุคลากรกว่า 10,000 อัตรา ทั้งหน่วยงานราชการ และเอกชนกว่า 450 หน่วยงาน ทั่วประเทศ
2. Business Process Outsource (BPO) พัฒนาออกแบบ และบริหารจัดการกระบวนการทางธุรกิจ ที่เหมาะสมให้กับลูกค้า ด้วยการใช้ทรัพยากรด้านแรงงาน และเทคโนโลยี เพื่อการยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์ให้อยู่เหนือคู่แข่งของลูกค้า
3. Specialized Outsource บริการผู้เชี่ยวชาญสำหรับงานเฉพาะด้าน เช่น “รุกขกร” งานด้านตัดแต่งต้นไม้ และดูแลภูมิทัศน์ขนาดใหญ่, งานด้านการกำจัดของเสียสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม, การจัดหารรถพร้อมดัดแปลง และจดประกอบสำหรับงาน Logistic
4. IT Outsource & Platform บริการด้านการจัดหาบุคลากรด้าน IT และเทคโนโลยีผัจจุบัน เพื่อการพัฒนากระบวนการทำงาน เช่น เทคโนโลยี RPA, AI, OCR ฯลฯ พร้อมกับระบบที่ทาง SO พัฒนาขึ้น เช่น Digital Signature, ระบบ Time Attendance และระบบ Business Process Management (BPM)
 
จาก 4 Resource ของ SO ซึ่งเป็นส่วนหลักในการเติมเต็มให้กับ Service ทั้ง 4 Level
1.SO People ทรัพยากรด้ารบุคลากร มีความชำนาญด้านการสรรหา และคัดสรร พร้อมทั้งการพัฒนาทักษะให้กับพนักงานทุกท่าน ก่อนการจัดส่งให้บริการลูกค้า
2.SO Wheel จัดหารถเช่าทั่วไป และรถ EV ทุกประเภท พร้อมทั้งบริการดัดแปลงรถให้เหมาะสมกับธุรกิจลูกค้าตามต้องการ
3.SO Green ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการภูมทัศน์ หรือพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ทั้งการออกแบบ การดูแลต้นไม้ และสภาพแวดล้อมทั้งหมดในพื้นที่
4. SO Next บริหารจัดการข้อมูล หรือเอกสารจำนวนมาก และออกแบบกระบวนการทำงานให้กับธุรกิจลูกค้า ด้วย Lean & Digitize เพื่อการ Transformation อย่างมีประสิทธิภาพ
 

เป้าหมายของ SO คือการเป็นพันธมิตรและที่ปรึกษาให้แก่ลูกค้า โดยการมีส่วนร่วมในการกำหนดกลยุทธ์และนโยบายสำหรับการดำเนินธุรกิจ ด้วยบริการ Outsource แบบผสานงานด้านบุคลากร และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน  เรียกว่า Tech-Enabled Outsourcing Solution เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน พร้อมนำเสนอวิธีการในการแก้ปัญหาที่เหมาะสมสำหรับทุกธุรกิจ

การเอาท์ซอร์สช่วยให้องค์กรมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักได้อย่างเต็มที่ มีความยืดหยุ่นในการปรับขนาดธุรกิจตามสถานการณ์ ถ่ายโอนความเสี่ยงต่างๆ ให้ SO จัดการ พร้อมเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่และนำหน้าคู่แข่ง เป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ตามแนวคิด "Unlock Possibilities, SO Here We Are"

“ เกมส์เปลี่ยน ” เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการกำหนด กลยุทธ์ทางธุรกิจ

SO สยามราชธานี Siamrajathanee Outsource คือ Outsourcing Service Solution gamechanger

กลยุทธ์ทางธุรกิจ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทำธุรกิจให้ความสำเร็จ กลยุทธ์ที่ดีจะช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และส่งเสริมการเติบโตขององค์กรได้อย่างยั่งยืน ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วจนส่งผลต่อการกำหนดกยุทธ์ทางธุรกิจ หากองค์กรไม่ได้ให้ความสำคัญในการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดกลยุทธ์ อาจทำให้องค์กรสูญเสียโอกาสในการแข่งขัน และขาดความองค์ความรู้ใหม่ๆในการพัฒนาธุรกิจให้ตามทันกับเทรนของโลกได้  

ความแตกต่างของกาวาง กลยุทธ์ทางธุรกิจ ในยุค Marketing 6.0 

ยุคการตลาดในอดีต

โฟกัสที่ผลิตภัณฑ์ และการขาย การตลาดในอดีตมุ่งเน้นไปที่การสร้างผลิตภัณฑ์ และการขายเป็นหลัก โดยมีการใช้กลยุทธ์ที่เน้นการส่งเสริมการขาย และการโฆษณาแบบดั้งเดิม เช่น โทรทัศน์, วิทยุ, และสิ่งพิมพ์ ป้ายโฆษณารูปแบบต่างๆ 

การสื่อสารแบบเดียวทาง บริษัทมีบทบาทเป็นผู้สื่อสารหลัก โดยลูกค้าเป็นเพียงผู้รับสาร ซึ่งมีบทบาทน้อยมากในการให้ข้อเสนอแนะหรือการมีส่วนร่วมกับสินค้าและกระบวนการสื่อสาร  

การตลาดแบบมวลชน การตลาดในอดีตมุ่งเน้นไปที่การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหญ่ๆ โดยไม่คำนึงถึงความต้องการ และความสนใจส่วนบุคคลของกลุ่มลูกค้ากลุ่มย่อยซึ่งอาจะเป็นลูกค้าหลักของสินค้าหรือบริการ 

ยุค Marketing 6.0 

โฟกัสที่ประสบการณ์ของลูกค้า และความสนใจส่วนบุคคลมากขึ้น Marketing 6.0 มุ่งเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า โดยให้ความสำคัญกับความต้องการและความรู้สึกของลูกค้ามากเป็นอันดับแรก เน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและกระตุ้นให้เกิดการบอกต่อผ่านช่องทาง social ต่างๆเช่น แชร์ คอมเมนท์ รีวิวเป็นต้น 

การสื่อสารแบบสองทาง Marketing 6.0 ให้ความสำคัญกับการสื่อสารแบบสองทาง โดยลูกค้าสามารถให้ข้อเสนอแนะและมีส่วนร่วมกับแบรนด์หรือองค์กรในการสร้างเนื้อหาและการสื่อสารเกี่ยวกับสินค้าละผลิตภัณฑ์ 

การตลาดแบบเฉพาะเจาะจงและส่วนบุคคล การใช้ข้อมูล (Big Data)  และเทคโนโลยี AI เพื่อวิเคราะห์ทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าแต่ละคน เพื่อช่วยให้สามารถส่งมอบข้อเสนอและเนื้อหาที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคนได้ อย่างตรงจุด ถูกที่ถูกเวลา ส่งผลให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากยิ่งขึ้น  

การใช้เทคโนโลยีในการสร้างประสบการณ์ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเช่น VR, AR, และเทคโนโลยีในมือถือ ของลูกค้า เพื่อการสร้างประสบการณ์ส่วนบุคคลที่ไม่เหมือนใครให้กับลูกค้า 

การใช้เทคโนโลยีในการสร้างความสัมพันธ์และประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เป็นเทรนที่กำลังได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน นอกจากจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาสินค้าหรือบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย แต่การที่องค์กรจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกต้องแม่นยำนั้น องค์รต้องกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดให้มีความยืดหยุ่น และสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของตลาดและเทคโนโลยี 

บทบาทสำคัญของเทคโนโลยีในการกำหนด กลยุทธ์ทางธุรกิจ  

เทคโนโลยีและความสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจในยุคปัจจุบัน ด้วยการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการอย่างรวดเร็ว ทำให้องค์กรต่างๆ ต้องปรับตัวเพื่อให้ทันต่อการแข่งขันและความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไป ดังนั้น เทคโนโลยีจึงมีความสำคัญต่อกลยุทธ์ทางธุรกิจในหลายด้าน ได้แก่

การเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนในการทำงาน 

เทคโนโลยีในปัจจุบันเข้ามาช่วยให้กระบวนการทำงานขององค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดเวลาที่ใช้ในการทำงาน และช่วยลดต้นทุนการผลิตหรือบริการต่างๆ ซึ่งเป็นการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน อาทิเช่นบริษัท A สามารถวิเคาระข้อมูลของลูกค้าจากคำสั่งซื้อตลอดทั้งปีพร้อมแสงข้อมูลสรุปผลได้ ภายใน 1-2 วัน จนองค์กรสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าและวางแผนการทำการตลาดในไตรมาสถัดไปได้   

  เข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น 

 เทคโนโลยีดิจิทัลเช่น โซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มออนไลน์ และการตลาดผ่านอีเมลช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขวางและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น สามารถจำแนกกลุ่มลูกค้าได้หลายกลุ่ม ส่งผลให้สามารถพัฒนาสินค้าและบริการได้ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยในการการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อีกด้วย 

นวัตกรรม และการพัฒนาผลิตภัณฑ์

เทคโนโลยีมีส่วนช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถปรับปรุงและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงให้กับลูกค้าได้อีกด้วย  

การวิเคราะห์ข้อมูล

เทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูล อาทิเช่น Tableau, Power BI, Qlik Sense มีส่วนช่วยให้องค์กรสามารถรวบรวม วิเคราะห์ และใช้ประโยชน์จากข้อมูลใหญ่ (Big Data) เพื่อตัดสินใจในการกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้องค์กร สามารถทำนายแนวโน้มตลาด และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ความยืดหยุ่นและการปรับตัว 

ในยุคที่ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีคือตัวแปรสำคัญที่ทำให้ทุกองค์กรต้องปรับตัวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงให้ได้  ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในด้านกฎหมาย การแข่งขัน หรือความต้องการของลูกค้า  

จากข้อมูลข้างต้น การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการ กำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรสามารถรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขัน สร้างนวัตกรรม และเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล  

เทคโนโลยีในปัจจุบันที่ช่วยในการกำหนดกลยุทธ์

เทคโนโลยีที่สำคัญในปัจจุบันที่ช่วยในการทำธุรกิจมีมากมาย แต่ละเทคโนโลยีมีจุดเด่นและเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจและเป้าหมายทางธุรกิจ 

ปัญญาประดิษฐ์  AI 
 Artificial intelligence ช่วยให้ธุรกิจสามารถทำงานได้ง่ายขึ้นรวดเร็วขึ้น ทั้งในด้านการวิเคราะห์ข้อมูล และตัดสินใจในกิจกรรมต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างการใช้งาน AI ในธุรกิจ ได้แก่ การใช้แชทบอทเพื่อตอบคำถามลูกค้า การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการที่ตรงใจ การใช้ AI ตรวจจับการฉ้อโกง หรือกาทุจริตต่างๆ  

คลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing)
คลาวด์คอมพิวติ้งช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงข้อมูล และซอฟต์แวร์ต่างๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีเอง ตัวอย่างการใช้งานคลาวด์คอมพิวติ้งในธุรกิจ ได้แก่ การใช้คลาวด์เก็บข้อมูล การใช้คลาวด์รันแอปพลิเคชัน การใช้คลาวด์สำรองข้อมูล 

โซเชียลมีเดีย (Social Media)
โซเชียลมีเดียช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้า โปรโมทสินค้าหรือบริการ และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ตัวอย่างการใช้งานโซเชียลมีเดียในธุรกิจ ได้แก่ การสร้างเพจบน Facebook การใช้ Twitter โปรโมทสินค้า การใช้ Instagram แชร์รูปภาพสินค้า 

อีคอมเมิร์ซ (E-commerce)
แพลตหอร์มซื้อขายออนไลน์ที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถขายสินค้าหรือบริการออนไลน์ได้ ตัวอย่างการใช้งานอีคอมเมิร์ซในธุรกิจ ได้แก่ การสร้างเว็บไซต์ขายของออนไลน์ การขายสินค้าบน Shopee หรือ Lazada 

อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT)
IoT ช่วยให้ธุรกิจสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล ตัวอย่างการใช้งาน IoT ในธุรกิจ ได้แก่ การใช้ IoT ติดตามสินค้า การใช้ IoT ตรวจสอบสภาพเครื่องจักร การใช้ IoT ควบคุมอุณหภูมิในห้อง 

นอกจากเทคโนโลยีที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถช่วยให้องค์กรได้พัฒนาระบบการทำงานและสามารถกำหนดกลยุทธ์ได้ง่ายขึ้น  เช่น บิ๊กดาต้า (Big Data) โมบายล์เทคโนโลยี (Mobile Technology) เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain Technology) 

Outsource ผู้ช่วยคนสำคัญในการเปลี่ยนเกมส์ทางธุรกิจ  

บริษัท Outsource คือ ผู้เชี่ยวชาญในกระบวนการทำงานที่สามารถทำงานแทนองค์กรในบางส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากว่า ช่วยให้องค์กรได้โฟกัสกับงานหลักที่สามารถสร้างรายได้ให้กับองค์รได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ บริษัท Outsource ยุคใหม่ยังช่วยเสริมขีดความสามารถให้การแข่งขันให้กับองค์กรได้ ช่วยให้เข้าถึงเทคโนโลยีในการทำงานที่ทันสมัย รวมไปถึงสามารถออกแบบกระบวนการในการทำงานและช่วยในขั้นตอนการวางกลยุทธ์ได้อีกด้วย  

บริษัท สยามราชทานี จำกัด (มหาชน) หรือ “SO” มีการใช้เทคโนโลยีหลากหลายผสานกับ Workforce จนเกิดเป็น Tech-enabled Outsourcing Solution ที่พร้อมตอบโจทย์การวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถทำงานได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น แอพพลิเคชั่นที่ทางบริษัทพัฒนามาเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานอย่าง  ERP Cloud , Employee self-service , Payroll  , Workflow BPM (Business Process Management) , E-signature  

ซึ่งระบบเหล่านี้จะเข้ามาช่วยวางระบบในการทำงาน และลดระยะเวลาในการส่งเอกสารหรือเซ็นอนุมัติเอกสารต่างๆภายในบริษัท นอกจากนี้ยังมี เทคโนโลยีการประมวลผลเอกสารอัจฉริยะ (IDP) ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการออกแบบขั้นตอนในการทำงาน ลดระยะเวลา และ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น  OCR (Optical Character Recognition) , RPA (Robotic Process Automation) , Industrial AI 

และ เทคโนโลยีที่ช่วยในเรื่องของการจัดการข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูล อย่าง Data Visualization , Dashboard ที่จะเข้ามาช่วยสรุปข้อมมูลและรายงานผลการทำงานในกิจกรรมต่างๆ ได้ง่ายขึ้น  

พร้อมกันนี้เรายังได้นำเทคโนโลยีเข้ามาผสานกับกระบวนการในการทำงาน จนได้เป็น Solution ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการขององค์กรได้แก่  

โซลูชั่นการจัดการทรัพยากรบุคคล (TikTrack) : ระบบการบริหารจัดการผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ที่ใช้สำหรับการลงเวลา เข้า-ออกงาน ,การลางาน ,การจัดการตารางงานของแต่ละแผนก , ระบบล่วงเวลา OT  พร้อมประมวนผลที่จะแสดงข้อมูลรายบุคคลให้หัวหน้างานทราบทันที ง่าย สะดวก ม่นยำ และปลอดภัย ลดข้อผิดพลาดและการทุจริตเรื่องเวลาเข้าออกงานไปได้เลย รองรับบน Smart Phone ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android รวมไปถึง แท็บเล็ต และอุปกรณ์พกพาอื่นๆ  

อ่านข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับระบบ Tiktrack คลิก : SO NEXT , LEAN AND DIGITIZATION YOUR BUSINESS| 

การจัดการยานพาหนะ VMS : บริการด้านยานพาหนะที่ผสานเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของเราเช่น  บริการเช่ารถพร้อมคนขับ , บริการรถเช่าดัดแปลง ,บริการรถเช่าเพื่อการขนส่ง พร้อมระบบบริหารจัดการยานพาหนะ หรือ VMS ย่อมาจาก Vehicle Management System  ระบบเทคโนโลยีที่ถูกจัดทำขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และ ช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับองค์กรละบริษัทห้างร้าน  ไม่ว่าจะเป็นการจองรถยนต์, การอนุมัติ, การตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานของรถยนต์ เช่น ข้อมูลรถยนต์, ภาษี, พรบ., ประกันภัย รวมไปถึงรายละเอียดการซ่อมบำรุงรักษารถยนต์ต่างๆ  ไปจนถึงพฤติกรรมของผู้ขับขี่ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถ 

 อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก : SO WHEEL , YOUR DRIVE WE SERVE 

สรุป

เทคโนโลยีไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้มีประสิทธิภาพและมีความยืดหยุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการสร้างนวัตกรรมและรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขัน ให้กับองค์กรในปัจจุบัน 

siamrajathanee-so

SO ผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์สแบบครบวงจร หนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย ที่นำ Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น และทาง SO ยังมีการเพิ่มศัพยภาพที่แข็งแกร่งอย่างไม่หยุดนิ่งด้วยการที่มีพันธมิตรทางธุรกิจหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรทั้งไทยและทั่วโลก เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า ด้วยบริการที่ครอบคุลมและพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการในการพัฒนาธุรกิจ

Service 4 Level สำหรับทุกธุรกิจลูกค้า
1. Workforce Outsource บริการด้านบุคลากรในตำแหน่งต่างๆ เริ่มตั้งแต่การสรรหา การบริหารกำลังคน ไปจนถึงขั้นตอนการจัดการเรื่อง Payroll ครบทั้งกระบวนการ ปัจจุบัน SO บริหารบุคลากรกว่า 10,000 อัตรา ทั้งหน่วยงานราชการ และเอกชนกว่า 450 หน่วยงาน ทั่วประเทศ
2. Business Process Outsource (BPO) พัฒนาออกแบบ และบริหารจัดการกระบวนการทางธุรกิจ ที่เหมาะสมให้กับลูกค้า ด้วยการใช้ทรัพยากรด้านแรงงาน และเทคโนโลยี เพื่อการยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์ให้อยู่เหนือคู่แข่งของลูกค้า
3. Specialized Outsource บริการผู้เชี่ยวชาญสำหรับงานเฉพาะด้าน เช่น “รุกขกร” งานด้านตัดแต่งต้นไม้ และดูแลภูมิทัศน์ขนาดใหญ่, งานด้านการกำจัดของเสียสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม, การจัดหารรถพร้อมดัดแปลง และจดประกอบสำหรับงาน Logistic
4. IT Outsource & Platform บริการด้านการจัดหาบุคลากรด้าน IT และเทคโนโลยีผัจจุบัน เพื่อการพัฒนากระบวนการทำงาน เช่น เทคโนโลยี RPA, AI, OCR ฯลฯ พร้อมกับระบบที่ทาง SO พัฒนาขึ้น เช่น Digital Signature, ระบบ Time Attendance และระบบ Business Process Management (BPM)
 
จาก 4 Resource ของ SO ซึ่งเป็นส่วนหลักในการเติมเต็มให้กับ Service ทั้ง 4 Level
1.SO People ทรัพยากรด้ารบุคลากร มีความชำนาญด้านการสรรหา และคัดสรร พร้อมทั้งการพัฒนาทักษะให้กับพนักงานทุกท่าน ก่อนการจัดส่งให้บริการลูกค้า
2.SO Wheel จัดหารถเช่าทั่วไป และรถ EV ทุกประเภท พร้อมทั้งบริการดัดแปลงรถให้เหมาะสมกับธุรกิจลูกค้าตามต้องการ
3.SO Green ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการภูมทัศน์ หรือพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ทั้งการออกแบบ การดูแลต้นไม้ และสภาพแวดล้อมทั้งหมดในพื้นที่
4. SO Next บริหารจัดการข้อมูล หรือเอกสารจำนวนมาก และออกแบบกระบวนการทำงานให้กับธุรกิจลูกค้า ด้วย Lean & Digitize เพื่อการ Transformation อย่างมีประสิทธิภาพ
 

เป้าหมายของ SO คือการเป็นพันธมิตรและที่ปรึกษาให้แก่ลูกค้า โดยการมีส่วนร่วมในการกำหนดกลยุทธ์และนโยบายสำหรับการดำเนินธุรกิจ ด้วยบริการ Outsource แบบผสานงานด้านบุคลากร และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน  เรียกว่า Tech-Enabled Outsourcing Solution เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน พร้อมนำเสนอวิธีการในการแก้ปัญหาที่เหมาะสมสำหรับทุกธุรกิจ

การเอาท์ซอร์สช่วยให้องค์กรมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักได้อย่างเต็มที่ มีความยืดหยุ่นในการปรับขนาดธุรกิจตามสถานการณ์ ถ่ายโอนความเสี่ยงต่างๆ ให้ SO จัดการ พร้อมเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่และนำหน้าคู่แข่ง เป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ตามแนวคิด "Unlock Possibilities, SO Here We Are"

สัญญาจ้างพนักงาน ที่ใช่ สำคัญยิ่งกว่าหาคู่ชีวิต

SO-สยามราชธานี-Siamrajathanee-Outsource-Outsourcing-Assistants-Consultant - Service-Solution -cover2

เคยไหม? จ้างพนักงานใหม่มาแล้วผิดหวัง ทำงานไม่ตรงใจ ไม่เข้ากับทีม ลาออกบ่อย สร้างปัญหาให้ปวดหัว ยิ่งพนักงานในตำแหน่งที่หาคนยากมากๆแล้ว ยิ่งไม่เป็นผลดีต่อองค์กรเลย

รู้ไหมว่า… การจ้างพนักงาน ก็เหมือนการหา “คู่ธุรกิจ” เลือกผิด ธุรกิจสะดุด เลือกถูก ธุรกิจจะประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้ได้เลยนะ

SO Next ไม่ได้เป็นเพียงแค่บริษัทจัดหาพนักงาน IT แต่เรายังเป็น “พันธมิตรทางธุรกิจ” ที่พร้อมให้คำปรึกษา สนับสนุน และช่วยให้คุณค้นพบ “พนักงาน IT” ที่ใช่สำหรับธุรกิจของคุณ

SO-สยามราชธานี-Siamrajathanee-Outsource-Outsourcing-Assistants-Consultant - recruitment 1

สัญญาจ้างพนักงาน แบบประจำ (Recruitment) เปรียบเสมือนรักแรกพบ แล้วตื่นเช้ามาแต่งงาน จดทะเบียนสมรส

เมื่อคุณเลือกจ้างพนักงานประจำ ก็เหมือนรักแรกพบ หรือ One Night Stand ที่ตื่นเช้ามาแล้วตัดสินใจแต่งงาน จดทะเบียนสมรสกันเลย คุณจะได้พนักงานที่เป็นของคุณโดยชอบธรรม มีสิทธิทางกฎหมายในการดูแลและควบคุมการทำงาน แต่ถ้าพนักงานคนนั้นเปลี่ยนไป ไม่ทำหน้าที่อย่างที่คาดหวัง ชีวิตการทำงานของคุณก็อาจจะประสบปัญหา

  • ข้อดี: หากเจอพนักงานที่ดี การทำงานจะราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
  • ข้อเสีย: หากพนักงานไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง การแก้ไขปัญหาจะยิ่งยุ่งยากและใช้เวลา เสียทั้งเงิน เวลาและยังเสียงานด้วย

การจ้างงานแบบประจำมีความเสี่ยง แต่ก็เป็นการลงทุนที่มีค่าหากคุณเจอคนที่ใช่ เหมือนกับการแต่งงานที่หากคู่ชีวิตดี ทุกอย่างก็จะดีตามมา แต่ถ้าคู่ชีวิตเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ก็อาจต้องพบกับปัญหามากมาย ซึ่งองค์กรต้องแบกรับความเสี่ยงไว้โดยชอบธรรมทั้งหมด

SO-สยามราชธานี-Siamrajathanee-Outsource-Outsourcing-Assistants-Consultant - outsource 1

สัญญาจ้างพนักงาน แบบ Outsource เปรียบเสมือนการเดทเพื่อศึกษาดูใจกันก่อนแต่ง

สำหรับองค์กรที่ยังไม่พร้อมรับภาระใหญ่ ไม่พร้อมผูกมัดกับใคร ยังไม่มั่นใจ ไม่อยากด่วนสรุป การจ้างพนักงานแบบ Outsource จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะเปรียบเสมือนการศึกษาดูใจก่อนแต่งงาน ไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายและสวัสดิการ ผู้จ้างสามารถเปลี่ยนพนักงานได้ตามความเหมาะสมและไม่ผูกมัดมากเกินไป

  • ข้อดี: มีความยืดหยุ่นสูง เพราะหากพนักงานมีปัญหา ไม่ตรงตามที่องค์กรต้องการ ทั้งทางพฤติกรรมและความสามารถ ผู้จ้างสามารถขอเปลี่ยนพนักงานได้ตลอดระยะเวลาสัญญา
  • ข้อเสีย: ไม่มีความผูกพันทางกฎหมายในระยะยาว พนักงานจะอยู่กับคุณแค่ 6 เดือน – 1 ปี นับเป็นความสัมพันธ์ระยะสั้นที่พบกันเพื่อจากลา ทีมงานต้องสานสัมพันธ์จูนกับคนใหม่บ่อยๆ

การจ้างพนักงานแบบ “Outsource” เปรียบเสมือนการ “ศึกษาดูใจ” คบหากันไปก่อน เกือบจะเป็น “Friend with Benefit” เหมือนคู่รักยุคใหม่ๆ ที่เปลี่ยน “คู่เดท” ไปเรื่อยๆ ไม่อยากมีภาระ ตัดเรื่อง “ค่าใช้จ่าย สวัสดิการ กฎหมาย” ให้ SO Next บริหารความเสี่ยงให้คุณเอง เรียกได้ว่า Win-Win ทั้งคู่ คุณได้พนักงาน ที่มีทักษะสูงด้าน IT พร้อมใช้งาน รู้หน้าที่ของตัวเอง และหากมี Accident ก็สามารถเปลี่ยนคนได้ตลอดระยะเวลาสัญญา

SO-สยามราชธานี-Siamrajathanee-Outsource-Outsourcing-Assistants-Consultant - Service-Solution - Hybridworking 1

สัญญาจ้างพนักงาน แบบ Hybrid Working เปรียบเสมือนการอยู่ก่อนแต่ง

หากคุณต้องการความยืดหยุ่นสูงสุด บริการ Hybrid Working ของเราเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เปรียบเสมือนการอยู่ก่อนแต่ง คุณสามารถปรับเปลี่ยนสัญญาจากพนักงาน Outsource เป็นพนักงานประจำได้ตลอดระยะเวลาสัญญา หากรู้สึกว่าพนักงานคนนี้ใช่ เมื่อหมดสัญญาคุณสามารถตัดสินใจว่าจะจดทะเบียนสมรสกันต่อหรือไม่

  • ข้อดี: ให้ผู้จ้างมีโอกาสในการเลือกศึกษาดูใจ ความสัมพันธ์ไปยาวๆ โดยไม่ต้องผูกมัดกัน เปลี่ยนได้ ปรับสัญญาได้ตามความสะดวก
  • ข้อเสีย: ถ้าคุณยังไม่ตัดสินใจซะที อาจจะถูกบริษัทอื่นแย่งตัว เหมือนการเจอคนที่ใช่ในเวลาที่ช้าไป หากคุณตัดสินใจช้าไป พนักงานที่คุณอยากได้เป็นพนักงานประจำอาจจะตกลงรับข้อเสนอกับที่อื่นไปแล้ว และคุณจะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับคนอื่น เพียงเพราะเจอคนที่ใช่แต่รักษาไว้ไม่ทัน

บริการ Hybrid Working ช่วยให้องค์กรของคุณมีความยืดหยุ่นในการจัดการพนักงานมากขึ้น หากพนักงานคนนั้นทำงานได้ดีและตรงตามที่ต้องการ คุณสามารถเปลี่ยนสถานะเป็นพนักงานประจำได้ทันที ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียพนักงานดีๆ ไปเมื่อหมดสัญญา แต่ก็ต้องรีบตัดสินใจหน่อย เพราะตัวพนักงานเองก็มีทางเลือกในการตัดสินใจมากเหมือนกัน

SO-สยามราชธานี-Siamrajathanee-Outsource-Outsourcing-Assistants-Consultant - Service-Solution - Hybridworking 2

ทำไมต้องเลือก SO Next

  1. ผู้เชี่ยวชาญด้าน Outsource ประสบการณ์กว่า 48 ปี: สามารถบริหารรูปแบบสัญญาหลากหลายรูปแบบ และเข้าใจความต้องการขององค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี
  2. เข้าถึงฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ IT Certificate: สามารถจัดหาพนักงาน IT ที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับ Certificate เฉพาะด้าน ที่ตรงตามความต้องการขององค์กรคุณได้
  3. AI ในการ Matching พนักงานและองค์กร: นำเครื่องมือ AI Matching มาช่วยสรุปประวัติผู้สมัครให้อ่านง่าย เปรียบเทียบผู้สมัครตามเกณฑ์ที่องค์กรต้องการพร้อมให้คะแนน เพื่อช่วยให้การคัดเลือกผู้สมัครเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพสูงที่สุด
  4. ทีม Tech Consult ที่พร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุน: ทีม Consult ของเราพร้อมวางแผนกำลังคนและสัญญา (IT Workforce Planning) เพื่อหาบริการที่เหมาะสมกับองค์กร และยังให้คำปรึกษาด้านเทคนิคแก่พนักงาน Outsource ตลอดระยะเวลาสัญญาเพื่อให้แน่ใจว่าทุกโปรเจกต์จะสำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี
  5. ฐานข้อมูลบุคลากร Tech และ non-Tech กว่า 300,000 คน: เรามีฐานข้อมูลพนักงาน Outsource ที่ครอบคลุมกว่า 100 ตำแหน่ง สามารถจัดส่ง Resume ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติตรงตามต้องการให้พิจารณาได้ทันที

สรุป

แต่ไม่ว่าคุณจะเลือก สัญญาจ้างพนักงาน แบบประจำที่เหมือนการแต่งงานและจดทะเบียนสมรส สัญญาจ้างพนักงาน แบบ Outsource ที่เหมือนการศึกษาดูใจ หรือ สัญญาจ้างพนักงาน แบบ Hybrid Working ที่ยืดหยุ่นในการเปลี่ยนสถานะพนักงานของ SO ก็พร้อมให้บริการเต็มที่ เพราะเรามีบริการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ เลือกวิธีที่เหมาะสมกับองค์กรของคุณ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและยั่งยืนในระยะยาวกับพนักงานที่ใช่!

SO Next “คู่หู” ที่ใช่ สำหรับ “คู่ชีวิต” ธุรกิจของคุณ

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสร่วมงานกับองค์กรของคุณ เพื่อสร้างสรรค์ความสำเร็จไปด้วยกัน เพราะทุกปัญหาที่คุณเจอ เราจะช่วยหาทางออกให้

บริการบริหารข้อมูล ภายในองค์กร และจัดหาพนักงาน IT Outsource

So Next มุ่งเน้นให้บริการด้าน Lean Transformation และ Digitalization ในองค์กร ผ่านการให้คำปรึกษา ออกแบบกระบวนการ ค้นหาเครื่องมือที่เหมาะสม และบริหารโครงการ โดยมีเป้าหมายให้ลูกค้าสามารถโฟกัสที่ธุรกิจหลัก ปรับขนาดธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น ลดความเสี่ยง และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในองค์กร

สนใจบริการ
siamrajathanee-so

SO ผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์สแบบครบวงจร หนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย ที่นำ Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น และทาง SO ยังมีการเพิ่มศัพยภาพที่แข็งแกร่งอย่างไม่หยุดนิ่งด้วยการที่มีพันธมิตรทางธุรกิจหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรทั้งไทยและทั่วโลก เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า ด้วยบริการที่ครอบคุลมและพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการในการพัฒนาธุรกิจ

Service 4 Level สำหรับทุกธุรกิจลูกค้า
1. Workforce Outsource บริการด้านบุคลากรในตำแหน่งต่างๆ เริ่มตั้งแต่การสรรหา การบริหารกำลังคน ไปจนถึงขั้นตอนการจัดการเรื่อง Payroll ครบทั้งกระบวนการ ปัจจุบัน SO บริหารบุคลากรกว่า 10,000 อัตรา ทั้งหน่วยงานราชการ และเอกชนกว่า 450 หน่วยงาน ทั่วประเทศ
2. Business Process Outsource (BPO) พัฒนาออกแบบ และบริหารจัดการกระบวนการทางธุรกิจ ที่เหมาะสมให้กับลูกค้า ด้วยการใช้ทรัพยากรด้านแรงงาน และเทคโนโลยี เพื่อการยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์ให้อยู่เหนือคู่แข่งของลูกค้า
3. Specialized Outsource บริการผู้เชี่ยวชาญสำหรับงานเฉพาะด้าน เช่น “รุกขกร” งานด้านตัดแต่งต้นไม้ และดูแลภูมิทัศน์ขนาดใหญ่, งานด้านการกำจัดของเสียสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม, การจัดหารรถพร้อมดัดแปลง และจดประกอบสำหรับงาน Logistic
4. IT Outsource & Platform บริการด้านการจัดหาบุคลากรด้าน IT และเทคโนโลยีผัจจุบัน เพื่อการพัฒนากระบวนการทำงาน เช่น เทคโนโลยี RPA, AI, OCR ฯลฯ พร้อมกับระบบที่ทาง SO พัฒนาขึ้น เช่น Digital Signature, ระบบ Time Attendance และระบบ Business Process Management (BPM)
 
จาก 4 Resource ของ SO ซึ่งเป็นส่วนหลักในการเติมเต็มให้กับ Service ทั้ง 4 Level
1.SO People ทรัพยากรด้ารบุคลากร มีความชำนาญด้านการสรรหา และคัดสรร พร้อมทั้งการพัฒนาทักษะให้กับพนักงานทุกท่าน ก่อนการจัดส่งให้บริการลูกค้า
2.SO Wheel จัดหารถเช่าทั่วไป และรถ EV ทุกประเภท พร้อมทั้งบริการดัดแปลงรถให้เหมาะสมกับธุรกิจลูกค้าตามต้องการ
3.SO Green ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการภูมทัศน์ หรือพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ทั้งการออกแบบ การดูแลต้นไม้ และสภาพแวดล้อมทั้งหมดในพื้นที่
4. SO Next บริหารจัดการข้อมูล หรือเอกสารจำนวนมาก และออกแบบกระบวนการทำงานให้กับธุรกิจลูกค้า ด้วย Lean & Digitize เพื่อการ Transformation อย่างมีประสิทธิภาพ
 

เป้าหมายของ SO คือการเป็นพันธมิตรและที่ปรึกษาให้แก่ลูกค้า โดยการมีส่วนร่วมในการกำหนดกลยุทธ์และนโยบายสำหรับการดำเนินธุรกิจ ด้วยบริการ Outsource แบบผสานงานด้านบุคลากร และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน  เรียกว่า Tech-Enabled Outsourcing Solution เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน พร้อมนำเสนอวิธีการในการแก้ปัญหาที่เหมาะสมสำหรับทุกธุรกิจ

การเอาท์ซอร์สช่วยให้องค์กรมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักได้อย่างเต็มที่ มีความยืดหยุ่นในการปรับขนาดธุรกิจตามสถานการณ์ ถ่ายโอนความเสี่ยงต่างๆ ให้ SO จัดการ พร้อมเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่และนำหน้าคู่แข่ง เป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ตามแนวคิด "Unlock Possibilities, SO Here We Are"

จ้าง Outsource หรือ In-House เลือกแบบไหน? พร้อม Framework สำหรับจ้าง IT Outsource

SO-สยามราชธานี-Siamrajathanee-Outsource-Outsourcing-Assistants-Consultant - business_opportunity IT Outsource Framework

ในโลกธุรกิจยุคใหม่ที่มีการแข่งขันสูงและเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การบริหารและจัดสรรทรัพยากรบุคคลอย่างเหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน คำถามที่ผู้บริหารหลายคนกำลังเผชิญอยู่ คือจะ จ้าง Outsource หรือจ้าง In-house (พนักงานประจำ) ดี สำหรับตำแหน่งงานไหนบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายงานไอที (IT) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบัน  

บทความนี้จะนำเสนอกรอบแนวคิด (Framework) ในการประเมินปัจจัยหลัก 4 ด้าน เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกระหว่าง In-house และ Outsource ได้อย่างชาญฉลาด พร้อมยกตัวอย่างการประยุกต์ใช้สำหรับบุคลากรไอทีโดยเฉพาะ 

SO สยามราชธานี Siamrajathanee Outsource คือ Outsourcing Service Solution IT Outsource Framework 3

 

4 กรอบแนวคิด (Framework)
ในการประเมินเลือก จ้าง Outsource หรือจ้าง In-house

แนวคิดหรือวิธีการใช้เพื่อตัดสินใจเลือกระหว่าง การจ้าง In-house กับใช้บริการ Outsource เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จขององค์กร ปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณา คือ ความสำคัญเชิงกลยุทธ์ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ความคุ้มค่าด้านต้นทุน และความยืดหยุ่นในการปรับขนาด บทความนี้จะวิเคราะห์แต่ละปัจจัยอย่างละเอียด เพื่อช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมกับบริบทขององค์กร

  1. ความสำคัญเชิงกลยุทธ์ (Strategic Importance)

    การพิจารณาว่าตำแหน่งงานใดมีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ต่อความสำเร็จระยะยาวขององค์กรเป็นปัจจัยแรกที่ต้องคำนึงถึง โดยหน้าที่ที่เป็นแกนหลักของธุรกิจ เป็นความสามารถหลัก (Core Competency) หรือสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ การวางแผนกลยุทธ์ การวิจัยและพัฒนา หรือการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า มักจำเป็นต้องจ้างเป็น In-house เพื่อสั่งสมความรู้และประสบการณ์ภายในองค์กร 

    ในทางกลับกัน สำหรับตำแหน่งที่ไม่ใช่ความสามารถหลักขององค์กร (Non-Core Functions) เช่น งานบัญชี งานธุรการ หรือการบริหารสวัสดิการพนักงาน การใช้บริการจาก Outsource อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพื่อให้องค์กรได้ใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญ โดยไม่ต้องลงทุนพัฒนาขีดความสามารถเหล่านี้ขึ้นมาเอง 

  2. ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (Specialized Expertise)

    อีกปัจจัยสำคัญคือ ระดับของความรู้และทักษะเฉพาะทางที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งงานนั้นๆ หากเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่หายาก ไม่สามารถสรรหาผู้มีความสามารถมาร่วมงานกับองค์กรได้ หรือต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการพัฒนาสูง เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน นักสถิติวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง หรือวิศวกรเฉพาะทาง
    การจ้างที่ปรึกษาหรือใช้บริการจาก Outsource ที่มีความเชี่ยวชาญเหล่านั้น จะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพกว่า แต่หากเป็นงานที่ต้องการความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในธุรกิจ กระบวนการ หรือผลิตภัณฑ์ขององค์กรเอง เช่น การบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า, การประกันคุณภาพสินค้า หรือการกำหนดนโยบายด้านทรัพยากรบุคคล การพัฒนาความเชี่ยวชาญเหล่านี้ภายในและการจ้างพนักงานประจำที่รู้จักองค์กรเป็นอย่างดีจะเหมาะสมกว่า

  3. ความคุ้มค่าด้านต้นทุน (Cost-Effectiveness)

    อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจระหว่าง In-house และ Outsource คือผลประโยชน์ด้านต้นทุนในระยะยาว โดยทั่วไปแล้ว การจ้างพนักงานประจำจะมีค่าใช้จ่ายคงที่ที่สูงกว่า ทั้งเรื่องเงินเดือน สวัสดิการ การฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ แต่ในระยะยาวการมีทีมงานคุณภาพที่ทุ่มเทให้กับบริษัท ก็อาจส่งผลให้ผลิตภาพโดยรวมสูงขึ้น ซึ่งคุ้มค่ากว่าการ Outsource ในบางตำแหน่ง
    ในขณะที่ Outsourcing จะช่วยลดต้นทุนและผันแปรค่าใช้จ่ายไปตามความต้องการใช้งานจริง จึงคุ้มค่ากว่าสำหรับงานที่มีปริมาณไม่แน่นอน งานที่จำเป็นต้องมีเฉพาะบางช่วงเวลา หรืองานที่ใช้ทักษะเฉพาะด้านสูงแต่มีปริมาณงานไม่มากนัก เช่น การจัดทำเงินเดือน การทำความสะอาด หรือการจัดการด้านกฎหมาย การใช้ Outsource จะช่วยลดภาระในการจัดการพนักงานและต้นทุนคงที่ระยะยาวได้
    ดังนั้น ควรวิเคราะห์ต้นทุนทั้งหมดในระยะยาว รวมถึงต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) ร่วมด้วย เพื่อประเมินให้ได้ว่าการจ้างพนักงานประจำหรือการใช้บริการภายนอกจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากว่ากัน

  4. ความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับขนาด (Flexibility and Scalability)

    ปัจจัยสุดท้ายที่ต้องพิจารณาคือ ความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับขยายหรือลดขนาดของทีมงานตามความจำเป็น สำหรับตำแหน่งงานที่มีปริมาณคงที่และต้องการความต่อเนื่อง เช่น ฝ่ายบัญชี ฝ่ายบริการลูกค้า การจ้างพนักงานประจำจะเหมาะสมกว่า เพราะการ Outsource อาจส่งผลต่อคุณภาพและความสม่ำเสมอของการทำงาน
    แต่ในทางกลับกัน สำหรับตำแหน่งงานที่มีความต้องการผันผวนตามฤดูกาล เช่น งานขายในช่วงเทศกาล หรืองานที่เป็นโปรเจกต์ระยะสั้น การใช้บริการ Outsource จะช่วยให้องค์กรสามารถเพิ่มหรือลดจำนวนพนักงานตามความจำเป็น โดยไม่ต้องแบกรับภาระต้นทุนคงที่ในระยะยาว ซึ่งเรียกว่าการ “Elastic Staffing” อันจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพโดยรวมให้กับองค์กร
    การ Outsource ยังช่วยให้องค์กรปรับขยายขนาดได้อย่างรวดเร็วในยามที่ธุรกิจเติบโต เพราะสามารถเข้าถึงทรัพยากรบุคคลจำนวนมากได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาไปกับการสรรหาและฝึกอบรม ซึ่งเป็นความได้เปรียบอย่างมากโดยเฉพาะสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพหรือธุรกิจ SME ที่ต้องการความคล่องตัวสูง 

งาน IT จะจ้าง Outsource ดี หรือจ้าง In-house (พนักงานประจำ) ? 

ในโลกธุรกิจยุคดิจิทัล การวางแผนกำลังคนด้านไอที (IT Workforce Planning) ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวและแข่งขันได้ท่ามกลางความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ หนึ่งในคำถามสำคัญที่ผู้บริหารมักเผชิญคือ จะ Outsource หรือจ้าง In-house ดี? การตัดสินใจนี้ไม่เพียงส่งผลต่อประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการดำเนินงาน แต่ยังมีผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูล ความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และการสร้างนวัตกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ขององค์กรด้วย 

IT ตำแหน่งไหนควรจ้าง in-house ตำแหน่งไหนควรจ้าง Outsource 

เรามาดูกันว่า สำหรับบุคลากรด้านไอทีในตำแหน่งต่างๆ เราควรเลือก In-house หรือ Outsource จึงจะเหมาะสมที่สุด 

สำหรับตำแหน่งที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์สูง เป็นแกนหลักในการสร้างนวัตกรรม และความได้เปรียบในการแข่งขัน เช่น

  • Chief Information Officer (CIO)ผู้นำสูงสุดด้านกลยุทธ์ไอทีและการพลิกโฉมธุรกิจด้วยเทคโนโลยี
  • IT Managerบริหารจัดการและกำกับดูแลการทำงานของทีมไอทีภายในองค์กร
  • Cybersecurity Specialistปกป้ององค์กรจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ทวีความซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
  • Data Analyst / Data Scientistสกัดข้อมูลเชิงลึกจาก Big Data เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ
  • Artificial Intelligence (AI) Engineerพัฒนาและประยุกต์ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสร้างโอกาสใหม่ๆ
  • Software Developer / Software Architectพัฒนาและออกแบบซอฟต์แวร์หลักขององค์กร
  • DevOps Engineerผสานการพัฒนาและปฏิบัติการไอทีเพื่อส่งมอบซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพสูงอย่างต่อเนื่อง
  • Cloud Engineerนำองค์กรเข้าสู่ยุคคลาวด์ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและประสิทธิภาพในการทำงาน

ตำแหน่งเหล่านี้ควรเป็นพนักงานประจำ เพื่อสร้างความต่อเนื่อง รักษาองค์ความรู้ภายใน และสร้างความผูกพันระยะยาวกับองค์กร 

SO สยามราชธานี Siamrajathanee Outsource คือ Outsourcing Service Solution IT Outsource Framework 2

 

ในทางกลับกัน สำหรับตำแหน่งที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านสูง แต่อาจจะไม่ใช่ Core Competency หลักขององค์กรโดยตรง เช่น

  • Web Developerพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ขององค์กร ซึ่งความต้องการอาจขึ้นลงตามแต่ละโปรเจค
  • Mobile App Developerสร้างและอัปเดตแอปพลิเคชันมือถือ ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องมีทีมงานขนาดใหญ่ประจำ
  • IT Consultantให้คำปรึกษาและแนะนำแนวทางด้านไอทีเฉพาะด้าน เช่น ERP, CRM หรือ Business Intelligence
  • QA Engineerทดสอบและรับประกันคุณภาพซอฟต์แวร์ ซึ่งสามารถจ้างเหมาเป็นโปรเจคได้
  • Technical Supportให้การสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วไปแก่ผู้ใช้งาน ซึ่งอาจ Outsource เพื่อประหยัดทรัพยากร
  • IT Technicianแก้ไขปัญหาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์พื้นฐาน สามารถจ้างบริการจากภายนอกได้เป็นครั้งคราวตามความจำเป็น
  • UI/UX Designerออกแบบหน้าตาและประสบการณ์การใช้งานแอปพลิเคชัน อาจจ้างเหมาได้ตามความต้องการของแต่ละโปรเจค
  • Network Engineerออกแบบ ติดตั้ง และดูแลระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอกได้ 
SO สยามราชธานี Siamrajathanee Outsource คือ Outsourcing Service Solution IT Outsource Framework 5

 

การ Outsource งานเหล่านี้ให้ผู้เชี่ยวชาญภายนอก จะช่วยให้องค์กรเพิ่มความยืดหยุ่น ประหยัดต้นทุน และมีกำลังคนที่พร้อมรับมือกับความต้องการที่ผันผวน โดยไม่ต้องแบกรับภาระพนักงานประจำจำนวนมาก ทั้งนี้ การเลือกว่าจะ Outsource หรือ Inhouse ไม่มีสูตรสำเร็จใช้ได้กับทุกองค์กร ผู้บริหารจำเป็นต้องพิจารณาให้รอบด้านทั้งเรื่องต้นทุน กลยุทธ์ โครงสร้างการทำงาน ความปลอดภัย และความพร้อมในการจัดการความเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม การสร้างสมดุลที่เหมาะสมระหว่าง Inhouse กับ Outsource โดยเฉพาะในสายงานไอทีที่มีความสำคัญและผลกระทบสูงนั้น จะเป็นกุญแจสำคัญส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้องค์กรสามารถผสานศักยภาพของบุคลากร เทคโนโลยี และกระบวนการ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้ท่ามกลางความท้าทายและการแข่งขันในโลกดิจิทัลอย่างยั่งยืน 

SO สยามราชธานี Siamrajathanee Outsource คือ Outsourcing Service Solution IT Outsource Framework 1
สยามราชธานี มีบริการ IT Outsource ที่แตกต่าง 
  • ฐานข้อมูลบุคลากร Tech และ non-Tech กว่า 300,000 คน พร้อมส่งให้ลูกค้าพิจารณา 
  • ระบบ AI ช่วยคัดเลือกผู้สมัครได้อย่างรวดเร็ว และ Matching กับความต้องการลูกค้า 
  • บริการ IT workforce planning วางแผนกำลังคนและสัญญา และบริการ Tech Consult ให้คำปรึกษาด้านเทคนิคแก่พนักงาน outsource ตลอดสัญญา 
  • ประสบการณ์กว่า 48 ปี ในการบริหาร รูปแบบสัญญาที่หลากหลาย ทั้ง Outsource, Recruitment หรือ Hybrid รวมถึงรูปแบบ IT Service ที่คิดเป็นรายโครงการและราย subscription 

สยามราชธานี (SO) ผู้นำบริการ IT Outsource ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการขององค์กรยุคใหม่ ด้วยศักยภาพที่โดดเด่นและความเชี่ยวชาญในการบริหารกำลังคน IT อย่างมืออาชีพ เราพร้อมเป็นพันธมิตรที่เติมเต็มความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีสารสนเทศให้แก่คุณ 

ด้วยฐานข้อมูลบุคลากรกว่า 300,000 คน ทั้ง Tech และ non-Tech ผนวกกับระบบ AI ในการคัดเลือกผู้สมัคร ทำให้เราสามารถค้นหาบุคลากรที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ทันที นอกจากนี้ เรายังมีบริการให้คำปรึกษาด้าน IT workforce planning เพื่อวางแผนกำลังคนอย่างมีประสิทธิภาพ และ Tech Consult ที่พร้อมอยู่เคียงข้างพนักงาน Outsource ตลอดระยะเวลาทำงาน 

ด้วยประสบการณ์กว่า 48 ปี ในการให้บริการ IT Outsource แก่บริษัทชั้นนำ เราเข้าใจความต้องการที่หลากหลายของธุรกิจ พร้อมให้คำแนะนำในการเลือก IT Skill ที่ตรงใจ และยืดหยุ่นในการปรับรูปแบบสัญญาให้สอดคล้องกับนโยบายองค์กร ไม่ว่าจะเป็น Outsource, Recruitment หรือ Hybrid ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าว่าจ้างพนักงาน Outsource เป็นการชั่วคราว และปรับเป็นพนักงานประจำได้ในภายหลัง 

SO ยังมอบบริการ IT Services อย่างครบวงจร ทั้งแบบ project และ subscription รายเดือน อาทิ งาน Tester, Implement, IT Support, Digital Marketing และ Data Labeling ที่ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง AI OCR และ RPA เข้ากับกำลังคนคุณภาพ เพื่อช่วยให้ลูกค้าบริหารค่าใช้จ่ายและทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า มั่นใจในมาตรฐานการให้บริการชั้นเลิศจากทีมงานมืออาชีพของเรา ที่พร้อมอยู่เคียงข้างและผลักดันให้คุณก้าวสู่ความสำเร็จบนเส้นทางดิจิทัล ด้วยความซื่อตรง โปร่งใส และการคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญเสมอ 

ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการบริหารทรัพยากรไอทีอย่างชาญฉลาดกับ SO ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT Outsource ระดับแนวหน้า ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาฟรีและข้อเสนอสุดพิเศษ ให้เราร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำพาองค์กรของคุณสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน ด้วยศักยภาพสูงสุดของกำลังคนคุณภาพจาก SO 

บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO พร้อมเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ด้าน IT Outsourcing สำหรับทุกตำแหน่งงานที่องค์กรของคุณต้องการ ด้วยฐานข้อมูลบุคลากร (ทั้ง IT และ non-IT) มากกว่า 300,000 คน ผนวกกับระบบ AI ในการคัดเลือก เราสามารถจัดสรรผู้มีความสามารถให้ตรงกับความต้องการและวัฒนธรรมของบริษัทคุณได้อย่างลงตัว พร้อมการสนับสนุนจาก Tech Consult คอยให้คำปรึกษา เพื่อให้มั่นใจในผลลัพธ์คุณภาพสูงสุด ยิ่งไปกว่านั้น บริการของเรายังครอบคลุมตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์ การสรรหา ไปจนถึงการบริหารจัดการโครงการไอทีแบบครบวงจร 

ความโดดเด่นที่ทำให้เราแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นคือ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมบริหารบุคลากรที่สั่งสมมานานกว่า 40 ปี ทำให้เราเข้าใจถึงความต้องการและความท้าทายที่แท้จริงขององค์กร และสามารถให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในทุกขั้นตอนของกระบวนการ Outsourcing นอกจากนั้น เรายังมีความยืดหยุ่นสูงในรูปแบบการให้บริการ ไม่ว่าคุณจะต้องการ Staff Augmentation ที่สามารถปรับขนาดทีมตามความต้องการ หรือ Turnkey Project ที่เราจะรับผิดชอบจัดการงานไอทีทั้งหมดแบบเบ็ดเสร็จ เราก็มีแพ็คเกจที่หลากหลายและปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการและงบประมาณ รวมถึงการให้บริการแบบ Hybrid ซึ่งลูกค้าว่าจ้างพนักงานเป็น Outsource เป็นระยะเวลาหนึ่งพร้อมกับทางเลือกในการปรับพนักงานให้เป็นพนักงานประจำหากตกลงว่าจ้างระยะยาว 

ด้วยทีมงานมากประสบการณ์ของ SO คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่มีคุณภาพสูงสุด บนพื้นฐานของความซื่อตรง โปร่งใส และคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญเสมอ เราพร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนคุณในทุกย่างก้าวของการเดินทางสู่ความสำเร็จด้านดิจิทัล 

หากพร้อมที่จะก้าวสู่ยุคใหม่ของการบริหารกำลังคนอย่างชาญฉลาด ติดต่อ SO เพื่อรับคำปรึกษาฟรีและข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับคุณวันนี้ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์กรของคุณสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนด้วยประสิทธิภาพสูงสุดของกำลังคนไอที 

บริการบริหารข้อมูล ภายในองค์กร และจัดหาพนักงาน IT Outsource

So Next มุ่งเน้นให้บริการด้าน Lean Transformation และ Digitalization ในองค์กร ผ่านการให้คำปรึกษา ออกแบบกระบวนการ ค้นหาเครื่องมือที่เหมาะสม และบริหารโครงการ โดยมีเป้าหมายให้ลูกค้าสามารถโฟกัสที่ธุรกิจหลัก ปรับขนาดธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น ลดความเสี่ยง และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในองค์กร

สนใจบริการ

คุณยังทิ้ง “โอกาสทางธุรกิจ” และเก็บ “สิ่งที่ไม่ใช่” เอาไว้กับองค์กรอยู่ใช่ไหม

SO-สยามราชธานี-Siamrajathanee-Outsource-Outsourcing-Assistants-Consultant - business_opportunity

หลายปีที่ผ่านมาทุกองค์กรต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรรค์มากมาย จากภาวะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากสงครามในยุโรปและตะวันออกกลาง ปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งภัยน้ำท่วม ภัยแล้ง และ การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการฉลอตัวของภาคการผลิตและยังสงผลให้กำลังซื้อของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศลดลง  

การจ้างงานแบบเดิมๆอาจทำให้องค์กรสูญเสีย โอกาสทางธุรกิจ 

ในหลายๆองค์กรยังคงใช้วิธีการจ้างงานในรูปแบบเดิมที่ เน้นให้พนักงานทำงานแบบมีหน้าที่ตายตัว ต้องทำงานในสถานที่ที่กำหนด และ จำกัดระยะเวลาในการทำงานเช่น กำหนดเวลาในการเข้าออกงานคือ 8.30 -17.30 น. เป็นเวลา 5-6 วันต่อสัปดาห์ และมีกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัด ขาดความยืดหยุ่น ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งงานที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งรูปแบบการจ้างงานแบบนี้กำลังล้าสมัย และทำให้องค์กรสูญเสีย โอกาสทางธุรกิจ  ไม่ว่าจะเป็น 

การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ

ในปัจจุบันรูปแบบการจ้างงานแบบเดิมๆ จะมีต้นทุนการดำเนินงานที่มากขึ้น เช่น ค่าเช่าสำนักงาน ค่าสาธารณูปโภค ค่าใช้ใจจ่ายในการฝึกอบรมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานระยะยาว องค์กรที่ต้องการลดต้นทุน จำเป็นต้องพิจารณารูปแบบการจ้างงานที่หลากหลายและสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ เช่น การจ้างงานแบบโปรเจคในตำแหน่ง IT support หรือ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ ด้วยบริการ Outsource สามารถช่วยลดต้นทุนที่เกิดจากการจ้างงานแบบพนักงานประจำ และ ลดภาระในการจัดการและฝึกอบรมพนักงาน และช่วยให้องค์กรได้โยกย้ายทรัพยากรที่จำเป็นไปยังกิจกรรมหลักได้อย่างเต็มที่ 

การเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน

เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนในสังคมมากขึ้น รูปแบบการจ้างงานที่ไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตจะส่งผลต่อขวัญกำลังใจและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน พนักงานที่ทำงานในกรอบที่กำหนด ไม่มีโอกาสได้พัฒนา รู้สึกเบื่อหน่าย ทำงานด้วยความเครียด และก่อให้เกิดพฤติกรรม Toxic ซึ่งส่งผลไม่ดีต่อการพัฒนาองค์กร องค์กรที่ต้องการพัฒนาขวัญกำลังใจและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน จำเป็นต้อง ส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมกับเป้าหมายขององค์กร สร้างความท้าทายและส่งเสริมให้มีความสุขกับการทำงาน

ความสามารถในการดึงดูดและรักษาคนเก่ง

รูปแบบการจ้างงานแบบเดิมๆ ดึงดูดคนเก่งได้ยาก เพราะรูปแบบการทำงานไม่สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของคนรุ่นใหม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น ความยืดหยุ่นในการทำงาน โอกาสในการพัฒนาศักยภาพ และความสมดุลระหว่างงานกับชีวิต ซึ่งการที่มีพนักงานที่เห่งและมีประสิทธิภาพสูงเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการพัฒนาองค์กร องค์กรที่ต้องการดึงดูดและรักษาคนเก่งเอาไว้ จำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์และเสนอรูปแบบการจ้างงานที่ยืดหยุ่นหลากหลายและเหมาะสมกับตำแหน่งงาน เช่น ปรับเวลาการเข้าออกงานให้ยืดหยุ่น สงเสริมการทำงานแบบ ทำ 4 หยุด 3 และ การทำงานแบบ Work From Home ให้มากขึ้น 

ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง

องค์กรที่ต้องการประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องพร้อมสำหรับการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง เพราะการทำงานในกรอบเดิมๆที่กำหนดให้พนักงานทำงานใน Office ที่เดียว จะขาดความคล่องตัวในการทำงาน เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเช่น น้ำท่วมใหญ่ หรือ ไฟไหม้โรงงานสารเคมีในพื้นที่ใกล้เคียง อาจมีการปิดกั้นพื้นที่เป็นระยะเวลานาน ทำให้พนักงานไม่สามารถเข้าทำงานที่ Office ได้ ส่งผลให้การทำงานหยุดชะงัก และจะขาดความต่อเนื่องในการทำงาน องค์กรที่ต้องการปรับตัว จำเป็นต้องมีรูปแบบการจ้างงานที่ยืดหยุ่น พนักงานสามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา และสามารถปรับเปลี่ยนทักษะให้เข้ากับความต้องการของธุรกิจในเวลาฉุกเฉินได้ 

ความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ

นวัตกรรมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กรที่ต้องการ โอกาสทางธุรกิจ รูปแบบการจ้างงานแบบเดิมๆ จะจำกัดความสามารถในการสร้างสรรค์และคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆในการทำงาน เพราะพนักงานที่ทำงานตามหน้าที่ ไม่มีโอกาสได้คิดนอกกรอบ หรือออกแบบวิธีการทำงานใหม่ๆ เพื่อแก้ไขปัญหา หรือ มีข้อจำกัดมากมายในการทดลองแนวทางใหม่ๆองค์กรที่ต้องการสร้างสรรค์นวัตกรรม จำเป็นต้องมีแนวทางและส่งเสริมให้พนักงานคิดสร้างสรรค์ ทำงานเป็นทีม และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ผ่านการอบรมหรือ ผ่านกิจกรรมกลุ่มต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นต้นทุนที่สูงทั้งด้านเวลาและค่าใช้จ่ายซึ่งองค์กรจำเป็นต้องแบกรับหากต้องการปรับเปลี่ยนให้ทันตามยุคสมัย 

องค์กรที่ต้องการเติบโตและหาโอกาสใหม่ๆในการทำธุรกิจ จำเป็นต้องปรับรูปแบบการจ้างงานให้สอดคล้องกับยุคสมัย รูปแบบการจ้างงานแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ตลาดแรงงานในปัจุจุบันได้แก่ การจ้างงานแบบอิสระ หรือ Freelance การจ้างงานแบบชั่วคราวหรือ Project และการ ใช้บริการ Outsourcing Service ในการวางกลยุทธ์วิธีการเหล่านี้จะช่วยให้องค์กรดึงดูดคนเก่งและมีความสามารถให้เข้ามาสู่องค์กร เป็นส่วนหนึ่งของการปรับตัวเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงในยุค Digital Distribution  

 

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อ โอกาสทางธุรกิจ ในปัจจุบัน 

ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในทุกขนาด  และ ทุกอุตสาหกรรม ซึ่งองค์กรที่มีความสามารถในการปรับตัวและเอาชนะอุปสรรคได้ จะเป็นตัวกำหนดความสำเร็จขององค์กรในอนาคต อุปสรรคหลักที่องค์กรต้องเผชิญ ได้แก่  

  1. เศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความไม่แน่นอนสูง จากปัจจัยต่างๆ เช่น สงครามในยูเครน  วิกฤตพลังงาน  และภาวะเงินเฟ้อ  ความไม่แน่นอนนี้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค  การลงทุน  และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ  องค์กรต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจ  และปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ 
  1. การขาดแคลนแรงงาน หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานที่มีทักษะสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนแรงงาน ประสิทธิภาพการผลิต และความสามารถในการแข่งขันขององค์กร  หลายองค์กรจึงต้องหาวิธีดึงดูดแรงงานที่มีความสามารถ รักษา และพัฒนาทักษะของพนักงานให้พร้อมตอบสนองทุกความเปลี่ยนแปลงที่มาถึง
  2. การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกยังคงเผชิญกับความเสี่ยงในการหยุดชะงักจากปัจจัยต่างๆ เช่น โควิด-19  สงครามในยูเครน  และภัยพิบัติทางธรรมชาติ  ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ อาจส่งผลกระทบต่อการจัดส่งสินค้าที่ไม่ตรงตามเวลา ต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้น  และความพร้อมใช้งานของสินค้าประเภทต่างๆ องค์กรต้องหาแนวทางจัดการห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น และรับมือกับการหยุดชะงักที่อาจเกิดขึ้น 
  3. ปัจจัยภายนอกที่ควบควบคุมไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อธุรกิจในหลายๆด้าน เช่น ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไฟป่า ภัยแล้ง การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ  องค์กรต้องปรับกลยุทธ์ในการทำธุรกิจเพื่อให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และ ให้สอบคล้องกับนโยบาย ESG ที่ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงต้องออกแบบกลยุทธ์ใหม่ๆเพื่อเตรียมรับมือกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 
  1. การแข่งขันในตลาดที่รุนแรง การแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบันมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น  จากการเข้าสู่ตลาดของคู่แข่งรายใหม่ รวมไปถึงการพัฒนาเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป องค์กรต้องพัฒนากลยุทธ์การแข่งขันที่ครอบคลุมทุกความต้องการและนำเสนอสินค้าหรือบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า  

 

Outsource ช่วยให้เข้าถึง โอกาสทางธุรกิจ ได้ง่ายขึ้น  

บริการ Outsource หรือ การจ้างผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้ามาทำงานแทนเป็นกลยุทธ์ที่มีความสำคัญในการช่วยให้องค์กรเข้าถึง โอกาสทางธุรกิจ ได้ในหลายๆด้านทั้งในปัจจุบันและอนาคตอาทิเช่น  

  1. เพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน : บริการ Outsource ช่วยให้องค์กรสามารถปรับขนาดทีมได้ตามความต้องการ ตามปริมาณงาน สภาวะเศรษฐกิจ หรือกลยุทธ์ทางธุรกิจ เช่น การจ้างทีมพัฒนาซอฟต์แวร์เมื่อมีโปรเจกต์ใหม่หรือต้องการขยายตลาดไปยังส่วนอื่นๆ เพิ่มทีมขายรายย่อยตามห้างสรรพสินค้าหรือพื้นที่ที่ต้องการในช่วยระยะเวลาสั้น  
  2. ช่วยบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ : การเลือกใช้บริการ Outsource ในบางส่วนของธุรกิจ เช่น IT support หรือการบริหารทรัพยากรมนุษย์ สามารถช่วยลดต้นทุนที่เกิดจาก ขั้นตอน Recruitment Process เช่น การสรรหา คัดเลือกผู้ที่ตรงตามความต้องการ การตรวจสอบประวัติ และ ลดภาระในการจัดการและฝึกอบรมพนักงาน รวมไปถึงต้นทุนแฝงต่างๆ
  3. เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน : บริษัท Outsource ที่มีการพัฒนานวัตกรรมหรือเทคโนโนโลยีใหม่ๆ ในการทำงานจะช่วยให้องค์กรมีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้นด้วยการเข้าถึงทรัพยากรที่มีคุณภาพและเทคโนโลยีที่ทันสมัยโดยไม่ต้องลงทุนวิจัยและพัฒนาด้วยตัวเอง 
  4. ช่วยบริหารความเสี่ยง : การเลือกใช้ Outsource เป็นกลยุทธ์ในการทำธุรกิจจะสามารถช่วยกระจายความเสี่ยงในด้านต่างๆได้ เช่น การใช้ศูนย์ข้อมูลภายนอกสำหรับการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์และเป็นการป้องกันการสูญหายของข้อมูลได้อย่ามีประสิทธิภาพ มากกว่าการบริหารจัดการด้วยตัวเอง ที่องค์กรต้องแบกรับทั้งคต้นทุนในการจัดการและปัจจัยเสี่ยงอื่นๆที่เกี่ยวข้อง 
  5. เข้าถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ : การใช้บริการ Outsource จะช่วยให้องค์กรสามารถนำเทคโนโลยีและกระบวนการใหม่ๆ มาใช้ในองค์กรได้เร็วกว่าการพัฒนาภายในองค์กรเอง ช่วยให้องค์กรเข้าถึงนวัตกรรมใหม่ๆจากทั่วโลกได้ง่ายขึ้น และช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 
  6. เข้าถึงความเชี่ยวชาญที่มากกว่า : บริการ Outsource ช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงความเชี่ยวชาญที่ไม่มีในองค์กรได้ โดยองค์กรไม่จำเป็นต้องทำการจ้างผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นให้เป็นพนักงานประจำขององค์กรเอง นอกจากจะทำให้ได้พนักงานที่มีความสามารถตรงตามความต้องการแล้วยังช่วยให้องค์กรวางแผนการทำงานให้มีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
  7. พร้อมตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว : การเลือกใช้บริการ Outsource เข้ามาเป็นส่วนหนึงในการกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจ จะช่วยให้องค์กรสามารถปรับเปลี่ยนแผนการดำพเนินงาน ขนาดขององค์กร และ การเพิ่มขีดความสามารถในด้านต่างๆได้อย่างรวดเร็ว และพร้อมตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้เร็วมากยิ่งขึ้น 

การจ้างงานแบบเดิมๆอาจะเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ สำหรับองค์กรที่ต้องการโอกาสใหม่ๆในการพัฒนาธุรกิจ ซึ่งการเลือกใช้ บริการ outsource เข้ามาช่วยกำหนดกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ อาจะตอบโจทย์มากกว่า เพราะไม่เพียงแต่ช่วยให้องค์กรสามารถลดต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่นได้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้องค์กรสามารถกำหนดเป้าหมายได้ชัดเจนและขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ รวมไปถึงช่วยตอบสนองต่อความท้าทายทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการเติบโตและแข่งขันได้ดีขึ้นในอนาคต

siamrajathanee-so

SO ผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์สแบบครบวงจร หนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย ที่นำ Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น และทาง SO ยังมีการเพิ่มศัพยภาพที่แข็งแกร่งอย่างไม่หยุดนิ่งด้วยการที่มีพันธมิตรทางธุรกิจหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรทั้งไทยและทั่วโลก เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า ด้วยบริการที่ครอบคุลมและพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการในการพัฒนาธุรกิจ

Service 4 Level สำหรับทุกธุรกิจลูกค้า
1. Workforce Outsource บริการด้านบุคลากรในตำแหน่งต่างๆ เริ่มตั้งแต่การสรรหา การบริหารกำลังคน ไปจนถึงขั้นตอนการจัดการเรื่อง Payroll ครบทั้งกระบวนการ ปัจจุบัน SO บริหารบุคลากรกว่า 10,000 อัตรา ทั้งหน่วยงานราชการ และเอกชนกว่า 450 หน่วยงาน ทั่วประเทศ
2. Business Process Outsource (BPO) พัฒนาออกแบบ และบริหารจัดการกระบวนการทางธุรกิจ ที่เหมาะสมให้กับลูกค้า ด้วยการใช้ทรัพยากรด้านแรงงาน และเทคโนโลยี เพื่อการยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์ให้อยู่เหนือคู่แข่งของลูกค้า
3. Specialized Outsource บริการผู้เชี่ยวชาญสำหรับงานเฉพาะด้าน เช่น “รุกขกร” งานด้านตัดแต่งต้นไม้ และดูแลภูมิทัศน์ขนาดใหญ่, งานด้านการกำจัดของเสียสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม, การจัดหารรถพร้อมดัดแปลง และจดประกอบสำหรับงาน Logistic
4. IT Outsource & Platform บริการด้านการจัดหาบุคลากรด้าน IT และเทคโนโลยีผัจจุบัน เพื่อการพัฒนากระบวนการทำงาน เช่น เทคโนโลยี RPA, AI, OCR ฯลฯ พร้อมกับระบบที่ทาง SO พัฒนาขึ้น เช่น Digital Signature, ระบบ Time Attendance และระบบ Business Process Management (BPM)
 
จาก 4 Resource ของ SO ซึ่งเป็นส่วนหลักในการเติมเต็มให้กับ Service ทั้ง 4 Level
1.SO People ทรัพยากรด้ารบุคลากร มีความชำนาญด้านการสรรหา และคัดสรร พร้อมทั้งการพัฒนาทักษะให้กับพนักงานทุกท่าน ก่อนการจัดส่งให้บริการลูกค้า
2.SO Wheel จัดหารถเช่าทั่วไป และรถ EV ทุกประเภท พร้อมทั้งบริการดัดแปลงรถให้เหมาะสมกับธุรกิจลูกค้าตามต้องการ
3.SO Green ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการภูมทัศน์ หรือพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ทั้งการออกแบบ การดูแลต้นไม้ และสภาพแวดล้อมทั้งหมดในพื้นที่
4. SO Next บริหารจัดการข้อมูล หรือเอกสารจำนวนมาก และออกแบบกระบวนการทำงานให้กับธุรกิจลูกค้า ด้วย Lean & Digitize เพื่อการ Transformation อย่างมีประสิทธิภาพ
 

เป้าหมายของ SO คือการเป็นพันธมิตรและที่ปรึกษาให้แก่ลูกค้า โดยการมีส่วนร่วมในการกำหนดกลยุทธ์และนโยบายสำหรับการดำเนินธุรกิจ ด้วยบริการ Outsource แบบผสานงานด้านบุคลากร และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน  เรียกว่า Tech-Enabled Outsourcing Solution เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน พร้อมนำเสนอวิธีการในการแก้ปัญหาที่เหมาะสมสำหรับทุกธุรกิจ

การเอาท์ซอร์สช่วยให้องค์กรมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักได้อย่างเต็มที่ มีความยืดหยุ่นในการปรับขนาดธุรกิจตามสถานการณ์ ถ่ายโอนความเสี่ยงต่างๆ ให้ SO จัดการ พร้อมเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่และนำหน้าคู่แข่ง เป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ตามแนวคิด "Unlock Possibilities, SO Here We Are"

หยุด! เพื่อทบทวน ”กลยุทธ์ทางธุรกิจ” และพร้อมสำหรับการเร่งเครื่องสู่อนาคตที่มั่นคง

business_strategy

     กลยุทธ์ทางธุรกิจ (Business Strategy) คือ แผนงานหรือชุดของแนวทางที่องค์กรจะใช้เพื่อบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ระยะยาว โดยมีการพิจารณาถึงทรัพยากรที่มี, สภาพแวดล้อมภายนอก, และการแข่งขันในตลาด กลยุทธ์ทางธุรกิจมีหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบมีจุดเน้นและวิธีการที่แตกต่างกัน ซึ่งบางครั้งอาจรวมถึงการเลือกตลาดเป้าหมาย, การกำหนดตำแหน่งสินค้าหรือบริการ, การพัฒนาสินค้าใหม่, การปรับปรุงกระบวนการผลิต, การวางแผนทางการเงิน, และการใช้เทคโนโลยีในการสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน

ปัจจัยในการเลือกปรับ กลยุทธ์ทางธุรกิจ

วัตถุประสงค์ขององค์กร : สิ่งที่องค์กรต้องการบรรลุ เช่น การเติบโต, การเพิ่มส่วนแบ่งตลาด, หรือความยั่งยืน 

ทรัพยากรที่มี : ทั้งทรัพยากรทางการเงิน, บุคคล, เทคโนโลยี, และอื่นๆ 

สภาพแวดล้อมทางการแข่งขัน : การวิเคราะห์คู่แข่งและการวางตำแหน่งของตัวเองในตลาด 

แนวโน้มตลาดและความต้องการของลูกค้า : การตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า 

การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี : การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสร้างข้อได้เปรียบ กลยุทธ์ทางธุรกิจสามารถเป็นระดับต่างๆ ตั้งแต่กลยุทธ์ระดับองค์กร (Corporate Strategy), กลยุทธ์ระดับธุรกิจ (Business Unit Strategy), ไปจนถึงกลยุทธ์ระดับการดำเนินงาน (Operational Strategy) ทุกระดับกลยุทธ์นี้มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนกันและกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายระยะยาวขององค์กร. อาทิเช่น
– กลยุทธ์เชิงรุก (Offensive Strategies) เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการขยายธุรกิจ เข้าสู่ตลาดใหม่ หรือเพิ่มส่วนแบ่งของการตลาด
– กลยุทธ์เชิงรับ (Defensive Strategies) เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการรักษาฐานลูกค้าเดิม รักษาส่วนแบ่งในตลาด และเน้นกิจกรรภายในที่สามารถลดต้นทุนขององค์กรได้
– กลยุทธ์แบบผสมผสาน (Combination Strategies) เป็นกลยุทธ์ที่ผสมผสานระหว่างกลยุทธ์เชิงรุกและเชิงรับ
– กลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง (Differentiation Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการสร้างสินค้าหรือบริการที่แตกต่างจากคู่แข่ง และสามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดได้อย่างรวกเร็ว
– กลยุทธ์ต้นทุนต่ำ (Low-Cost Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการลดต้นทุนในสายการผลิต เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง
– กลยุทธ์การมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าเฉพาะ (Focus Strategy) เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการทำตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เช่น สินค้าแฟชั่น อุปกรณ์ทางการแพทย์ และ เครื่องมือช่าง เป็นต้น  

ปัจจัยเสี่ยงในปัจจุบันที่องค์กรต้องให้ความสำคัญ  

 การปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจมีปัจจัยเสี่ยงหลายด้านที่องค์กรต้องคำนึงถึง เพื่อให้สามารถนำไปสู่การตัดสินใจที่มีประสิทธิผลและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้รวมถึง   

การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี (Technological Advancements)ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบันที่มีมากขึ้น กลายเป็ฯความท้าทายใหม่และสามารถเข้ามาทดแทน ขั้นตอนหรือกระบวนการต่างๆขององค์กรได้ ซึ่งอาจทำให้กระบวนการต่างๆที่ธุรกิจใช้ในปัจจุบันกลายเป็นนสิ่งล้าสมัย ซึ่งหากองค์กรต้องการลดความเสี่ยงและผลกระทบจาก เทคโนโลยี องค์กรต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการในการทำงาน โดยต้องมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาปรับใช้มากขึ้น รวมถึงต้องคอยติดตามประเมิณผลของกิจกรรมต่างๆหลังใช้เทคโนโลยีเข้ามาร่วมทำงานว่ามีประสิทธิภาพเป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่  

การเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ  (Law and Regulation) อาทิเช่น กฎหมายที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคล PDPA (Personal Data Protection Act) ที่มีผลต่อการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล รวมไปถึงข้อมูลอื่นๆเช่น ภาพถ่าย และ VDO ที่จะต้องใช้งานผ่านสื่อช่องทางต่างๆ ซึ่งองค์กรจะต้องปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางกฎหมายและค่าปรับที่อาจะเกิดขึ้นได้   

 ความสัมพันธ์ (Connection) การขาดการเชื่อมต่อหรือรักษาความสัมพันธที่ดีกับ คู่ค้าและลูกค้าอาจเป็นอุปสรรค์สำคัญในการขยายธุรกิจและในกลุ่มแวดวงธุรกิจอื่นๆ อาจส่งผลถึงโอกาสในการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด ซึ่งองค์รจะต้องปรับตัวในการ สร้างและบำรุงรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและคู่ค้าผ่านการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เช่น การเข้าร่วมงานอีเวนต์อุตสาหกรรม และการสร้างโอกาสในการร่วมมือกัน 

ตัวอย่างองค์กรที่กำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจผิดพลาด

  1. แบรนด์มือถือยักษ์ใหญ่รายหนึ่ง เคยเป็นผู้นำตลาดโทรศัพท์มือถือระดับโลก แต่การเกิดขึ้นของ Smart Phone ทำให้ไม่สามารถปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับคู่แข่งอย่าง Apple และ Samsung และกว่าจะกลับเข้าสู่ตลาดได้ก็สายไปแล้ว
  2. บริษัทผู้ให้บริการร้านเช่า VDO และเคยเป็นผู้นำตลาด แต่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและการเข้ามาของ VIDEO Streaming Platform และสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับ Netflix  
  1. บริษัทผลิตฟีล์มและกล้องถ่ายภาพชื่อดัง เคยเป็นผู้นำตลาดฟิล์มถ่ายรูปของโลก แต่บริษัทเองไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี กล้องถ่ายถาพ DIGITAL และสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับกล้องดิจิทัล แบรนด์ต่างๆอย่าง CANON,NIKON และ SONY 
  2. บริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันรายใหญ่ ที่เคยเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ของอเมริกาและยุโรป ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีด้านยนตรกรรม และสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับ Tesla

จะเห็นได้ว่าแบรนด์ที่เคยเป็นเจ้าตลาดแต่ไม่มีการปรับกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ ภายใต้ปัจจัยบังคับอย่างการพัฒนาเทคโนโลยี ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อระบบของบริษัท พนักงาน และอาจะทำให้สูญเสียรายได้จนถึงขั้นต้องปิดกิจการซึ่งสาเหตุหลักๆคือ องค์กรไม่มีการปรับตัวให้ทันต่อเทรนของโลก ,ไม่มีการศึกษาพฤติกรรมของลูกค้า ,ขาดการวิเคราะห์คู่แข่ง,ไม่ได้ประเมิณความเสี่ยงและขาดกลยุทธ์ที่ชัดเจน  

 การรับมือกับปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ต้องมีการวางแผนที่ครอบคลุมและการประเมินความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการมีกลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เช่น การสร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน การมีแผนฉุกเฉิน และการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น. 

การใช้บริการ Outsource เข้ามาช่วยในการปรับ กลยุทธ์ทางธุรกิจ  

การใช้บริการ Outsource เข้ามาช่วยในการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจช่วยให้องค์กรสามารถโฟกัสไปที่กิจกรรมหลักของธุรกิจได้มากขึ้น โดยการโอนความรับผิดชอบในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์, งานที่เกี่ยวข้องกับด้าน IT, การจัดการเอกสารภายในบริษัท, การบริหารจัดการรถยนต์, การบริหารพื้นที่สีเขียว และอื่นๆ ไปยังผู้ให้บริการภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเข้ามาบริหารจัดการแทนองค์กร 

ประโยชน์จากการใช้บริการ Outsource 

1 ช่วยให้สามารถโฟกัสไปที่ธุรกิจหลักได้มากขึ้น: โดยการลดภาระการจัดการงานสนับสนุนที่ไม่ใช่หัวใจหลักของธุรกิจ, องค์กรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการบริหารธุรกิจหลัก. 

2 ความสามารถในการปรับขนาด: บริการ Outsource ช่วยให้องค์กรสามารถปรับขนาดของทรัพยากรได้ตามความต้องการของธุรกิจ, ไม่ว่าจะเป็นการขยายหรือลดขนาด, ทำให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว. 

3 การโอนความเสี่ยง: การใช้บริการ Outsource ยังช่วยโอนความเสี่ยงบางประเภทไปยังผู้ให้บริการภายนอก, เช่น ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทรัพยากรมนุษย์, การลงทุนในเทคโนโลยี, หรือการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย. 

4 การเข้าถึงนวัตกรรม: ผู้ให้บริการ Outsource มักจะมีการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า, ทำให้องค์กรสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ได้โดยไม่ต้องลงทุนเอง. 

ด้วยการใช้กลยุทธ์การ Outsource ที่เหมาะสม, องค์กรสามารถเพิ่มความยืดหยุ่น, ปรับปรุงการบริหารจัดการ, และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดได้

siamrajathanee-so

SO ผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์สแบบครบวงจร หนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย ที่นำ Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น และทาง SO ยังมีการเพิ่มศัพยภาพที่แข็งแกร่งอย่างไม่หยุดนิ่งด้วยการที่มีพันธมิตรทางธุรกิจหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรทั้งไทยและทั่วโลก เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า ด้วยบริการที่ครอบคุลมและพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการในการพัฒนาธุรกิจ

Service 4 Level สำหรับทุกธุรกิจลูกค้า
1. Workforce Outsource บริการด้านบุคลากรในตำแหน่งต่างๆ เริ่มตั้งแต่การสรรหา การบริหารกำลังคน ไปจนถึงขั้นตอนการจัดการเรื่อง Payroll ครบทั้งกระบวนการ ปัจจุบัน SO บริหารบุคลากรกว่า 10,000 อัตรา ทั้งหน่วยงานราชการ และเอกชนกว่า 450 หน่วยงาน ทั่วประเทศ
2. Business Process Outsource (BPO) พัฒนาออกแบบ และบริหารจัดการกระบวนการทางธุรกิจ ที่เหมาะสมให้กับลูกค้า ด้วยการใช้ทรัพยากรด้านแรงงาน และเทคโนโลยี เพื่อการยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์ให้อยู่เหนือคู่แข่งของลูกค้า
3. Specialized Outsource บริการผู้เชี่ยวชาญสำหรับงานเฉพาะด้าน เช่น “รุกขกร” งานด้านตัดแต่งต้นไม้ และดูแลภูมิทัศน์ขนาดใหญ่, งานด้านการกำจัดของเสียสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม, การจัดหารรถพร้อมดัดแปลง และจดประกอบสำหรับงาน Logistic
4. IT Outsource & Platform บริการด้านการจัดหาบุคลากรด้าน IT และเทคโนโลยีผัจจุบัน เพื่อการพัฒนากระบวนการทำงาน เช่น เทคโนโลยี RPA, AI, OCR ฯลฯ พร้อมกับระบบที่ทาง SO พัฒนาขึ้น เช่น Digital Signature, ระบบ Time Attendance และระบบ Business Process Management (BPM)
 
จาก 4 Resource ของ SO ซึ่งเป็นส่วนหลักในการเติมเต็มให้กับ Service ทั้ง 4 Level
1.SO People ทรัพยากรด้ารบุคลากร มีความชำนาญด้านการสรรหา และคัดสรร พร้อมทั้งการพัฒนาทักษะให้กับพนักงานทุกท่าน ก่อนการจัดส่งให้บริการลูกค้า
2.SO Wheel จัดหารถเช่าทั่วไป และรถ EV ทุกประเภท พร้อมทั้งบริการดัดแปลงรถให้เหมาะสมกับธุรกิจลูกค้าตามต้องการ
3.SO Green ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการภูมทัศน์ หรือพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ทั้งการออกแบบ การดูแลต้นไม้ และสภาพแวดล้อมทั้งหมดในพื้นที่
4. SO Next บริหารจัดการข้อมูล หรือเอกสารจำนวนมาก และออกแบบกระบวนการทำงานให้กับธุรกิจลูกค้า ด้วย Lean & Digitize เพื่อการ Transformation อย่างมีประสิทธิภาพ
 

เป้าหมายของ SO คือการเป็นพันธมิตรและที่ปรึกษาให้แก่ลูกค้า โดยการมีส่วนร่วมในการกำหนดกลยุทธ์และนโยบายสำหรับการดำเนินธุรกิจ ด้วยบริการ Outsource แบบผสานงานด้านบุคลากร และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน  เรียกว่า Tech-Enabled Outsourcing Solution เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน พร้อมนำเสนอวิธีการในการแก้ปัญหาที่เหมาะสมสำหรับทุกธุรกิจ

การเอาท์ซอร์สช่วยให้องค์กรมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักได้อย่างเต็มที่ มีความยืดหยุ่นในการปรับขนาดธุรกิจตามสถานการณ์ ถ่ายโอนความเสี่ยงต่างๆ ให้ SO จัดการ พร้อมเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่และนำหน้าคู่แข่ง เป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ตามแนวคิด "Unlock Possibilities, SO Here We Are"

เบื่อกับขั้นตอนงานเดิมๆ ซ้ำๆ… ให้ RPA ช่วยทำงานสิ !!!

RPA

ให้ RPA ช่วยจัดการกับขั้นตอนงานซ้ำๆ

การนำระบบอัตโนมัติกระบวนการทางธุรกิจ (Robotic Process Automation หรือ RPA) มาใช้ในองค์กรมีประโยชน์หลายประการ ได้แก่ การลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย เนื่องจากระบบ RPA สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องจ่ายค่าแรงงานเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการทำงานด้วยมนุษย์ รวมทั้งเพิ่มผลผลิตและความรวดเร็วในการทำงาน ซึ่งจะส่งผลให้องค์กรมีศักยภาพในการแข่งขันที่สูงขึ้น

ประโยชน์ของการใช้ RPA

  • ลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
  • ลดข้อผิดพลาดในการทำงาน
  • เพิ่มผลผลิตและความเร็วในการทำงาน
  • เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน

ระบบ RPA สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานประเภทต่างๆ เช่น งานที่ต้องทำซ้ำๆ เป็นประจำ งานที่มีขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน งานที่ต้องอาศัยการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก หรืองานที่ต้องอาศัยการจดจำหรือการตัดสินใจที่ไม่ซับซ้อน ซึ่งการนำ RPA มาใช้จะช่วยแบ่งเบาภาระงานจำเจให้แก่พนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานขององค์กรได้เป็นอย่างดี

การใช้งาน RPA ในธุรกิจต่างๆ

  • กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง
  • กระบวนการบัญชี
  • กระบวนการลูกค้าสัมพันธ์
  • กระบวนการผลิต
  • กระบวนการคลังสินค้า

ปัจจุบัน RPA เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในองค์กรต่างๆ ทั่วโลก เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานง่าย มีประสิทธิภาพสูง และสามารถช่วยลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างคุ้มค่า

บริการบริหารข้อมูล ภายในองค์กร และจัดหาพนักงาน IT Outsource

So Next มุ่งเน้นให้บริการด้าน Lean Transformation และ Digitalization ในองค์กร ผ่านการให้คำปรึกษา ออกแบบกระบวนการ ค้นหาเครื่องมือที่เหมาะสม และบริหารโครงการ โดยมีเป้าหมายให้ลูกค้าสามารถโฟกัสที่ธุรกิจหลัก ปรับขนาดธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น ลดความเสี่ยง และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในองค์กร

สนใจบริการ

วิวัฒนาการของการเอาท์ซอร์ส (Outsourcing) จากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมสู่ยุคดิจิทัล

SO-สยามราชธานี-Siamrajathanee-Outsource-Outsourcing-Assistants-Consultant - business_opportunity IT Outsource Framework evolution-outsourcing-01

การใช้บริการจากภายนอกองค์กร หรือที่เรียกว่า “เอาท์ซอร์ส” (Outsourcing) เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มีวิวัฒนาการยาวนานควบคู่ไปกับการพัฒนาของโลกธุรกิจ มีการเปลี่ยนแปลงและปรับใช้ในรูปแบบต่างๆ ตามบริบททางสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีของแต่ละยุคสมัย จากเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนการผลิตในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม จนถึงการเข้าถึงบริการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในปัจจุบัน Outsource คือกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ ทั้งในแง่การลดต้นทุน เข้าถึงบริการจากผู้เชี่ยวชาญ เพิ่มประสิทธิภาพ นำพาสู่นวัตกรรมใหม่ๆ และความยืดหยุ่นในการปรับตัวให้ทันต่อความท้าทายของโลกธุรกิจยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

แต่ละยุคสมัยการเอาท์ซอร์สจะมีรูปแบบและคุณค่าที่แตกต่างกัน แต่จุดร่วมคือการใช้ประโยชน์จากการมอบหมายงานบางส่วนให้ผู้เชี่ยวชาญภายนอก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ผลิตภาพ และความสามารถทางการแข่งขันขององค์กร ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ธุรกิจสำคัญสำหรับการอยู่รอดและเติบโตในทุกยุคสมัย

outsourcing-industrialization

1.ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrialization) จุดกำเนิดของการเอาท์ซอร์ส (Outsourcing) เพื่อประสิทธิภาพ

(Industrialization, Cost Efficiency)

ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ขณะที่ปฏิวัติอุตสาหกรรมก่อให้เกิดความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการผลิต และความต้องการสินค้าในปริมาณมหาศาล บริษัทต่างๆ จึงเริ่มนำแนวคิดการจ้างแรงงานภายนอกมาใช้อย่างแพร่หลาย ซึ่งถือเป็นรากฐานของการ Outsource ในปัจจุบัน

ตัวอย่างที่โดดเด่น ได้แก่:

  • อุตสาหกรรมสิ่งทอในสหรัฐอเมริกา โรงงานผลิตเสื้อผ้าจำนวนมากได้ย้ายฐานการผลิตจากภาคเหนือลงมายังมลรัฐทางภาคใต้ เช่น นอร์ทคาโรไลนา เพื่อจ้างแรงงานจากครัวเรือนรายย่อยที่มีค่าแรงถูกกว่า ช่วยลดต้นทุนการผลิตและทำให้สินค้ามีราคาแข่งขันได้ในตลาด
  • Cadbury ผู้ผลิตช็อกโกแลตชื่อดัง บริษัทได้ให้ครัวเรือนต่างๆ รับงานตัดแต่งหรือห่อหุ้มช็อกโกแลตไปทำที่บ้าน ซึ่งเป็นการจ้างแรงงานภายนอกในลักษณะ Outsource ที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก
  • Benetton แบรนด์เสื้อผ้าสัญชาติอิตาลี มีการว่าจ้างชาวบ้านและครอบครัวในหมู่บ้านต่างๆ ของอิตาลีเหนือมาทำงานผลิตเสื้อผ้าที่บ้าน เพื่อใช้ประโยชน์จากแรงงานราคาถูก ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมหาศาล

เหตุผลหลักของการใช้แรงงานภายนอกในยุคนั้น คือ การลดต้นทุนการผลิตด้วยการจ้างแรงงานที่มีค่าจ้างต่ำกว่าแรงงานประจำ ทำให้สามารถตั้งราคาสินค้าให้แข่งขันได้ในตลาด อีกทั้งยังเป็นการแบ่งเบาภาระการจ้างงานแรงงานประจำภายในโรงงานด้วย

แนวคิดการนำแรงงานภายนอกเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมนี้เอง จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของแนวคิดการ Outsource ในโลกธุรกิจปัจจุบัน ที่มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากการแบ่งปันทรัพยากรภายนอกองค์กร

outsourcing-it-era

2.ยุคการปฏิวัติ IT (Rise of IT) การเอาท์ซอร์ส ที่พลิกโฉมธุรกิจในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ

(Need for Specialized Skills and Technology)

ในช่วงทศวรรษ 1960 เมื่อคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการธุรกิจ บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องนำระบบคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์มาใช้ในการดำเนินงาน แต่การดูแลรักษาและบริหารจัดการระบบเหล่านี้ต้องอาศัยบุคลากรที่มีความรู้และทักษะเฉพาะทาง ทำให้เกิดความต้องการในการ Outsource งานด้าน IT ขึ้น

ตัวอย่างที่น่าสนใจ ได้แก่:

  • Kodak ในปี 1989 Eastman Kodak บริษัทผลิตอุปกรณ์ถ่ายรูปและฟิล์มชื่อดัง ตกลงทำสัญญาจ้าง IBM ให้ดูแลระบบสารสนเทศและการประมวลผลข้อมูลทั้งหมด มูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นสัญญา Outsource ด้าน IT ที่ใหญ่ที่สุดในเวลานั้น
  • Continental Airlines สายการบินยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ ได้จ้าง EDS ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีชั้นนำในขณะนั้น ดูแลทั้งระบบจองตั๋ว การเช็คอิน และงานด้านไอทีต่างๆ เพื่อให้สามารถมุ่งเน้นการบริหารจัดการธุรกิจหลักของตนได้เต็มที่
  • Swiss Bank Corporation ธนาคารยักษ์ใหญ่จากสวิตเซอร์แลนด์ได้ Outsource งานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งหมดให้กับ IBM, Merrill Lynch และ Xtra ซึ่งช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมาก

เหตุผลหลักของการใช้บริการคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์จากภายนอกในยุคนั้นคือการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการลดต้นทุน ด้วยการใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจากภายนอก ทำให้บริษัทสามารถมุ่งเน้นไปที่ความสามารถหลักและการขยายธุรกิจได้อย่างเต็มที่

แนวคิดการนำบริการคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์เข้ามาใช้ในกระบวนการดำเนินงานในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศนี้เอง จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของแนวคิดการ Outsource ด้าน IT ในโลกธุรกิจปัจจุบัน ที่มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและผู้เชี่ยวชาญภายนอกองค์กร

outsourcing-globalization

3. ยุคโลกไร้พรมแดน (Globalization) การเอาท์ซอร์สที่ขับเคลื่อนธุรกิจในยุคโลกาภิวัฒน์

(Access to Global Shared Services and Global Talents)

ในช่วงทศวรรษ 1990 เมื่อกระแสโลกาภิวัฒน์เริ่มแพร่หลาย ประกอบกับความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีสื่อสารและการขนส่ง ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงาน สินค้า และบริการข้ามพรมแดนมากขึ้น องค์กรธุรกิจต่างๆ จึงเริ่มหันมาใช้กลยุทธ์ Outsource งานไปยังประเทศที่มีต้นทุนแรงงานต่ำกว่าอย่างแพร่หลาย

ตัวอย่างที่น่าสนใจ ได้แก่:

  • India’s IT Services : ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 ประเทศอินเดียได้กลายเป็นศูนย์กลางการเอาท์ซอร์สด้าน IT ระดับโลก ด้วยการแก้ไขปัญหา Y2K ที่เน้นความสามารถในการพัฒนาซอฟต์แวร์ของอินเดีย ส่งผลให้บริษัทต่างๆ ทั่วโลกเลือกเอาท์ซอร์สงานด้าน IT ไปยังอินเดีย ซึ่งมีแรงงานที่มีทักษะสูงและพูดภาษาอังกฤษได้ดี ในราคาที่ต่ำกว่าประเทศตะวันตก การเอาท์ซอร์สไปยังอินเดียช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาซอฟต์แวร์ รวมถึงการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้บริษัทสามารถให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงเนื่องจากความแตกต่างของเวลา
  • Philippines Call Centers : ประเทศฟิลิปปินส์ได้กลายเป็นศูนย์กลางการเอาท์ซอร์สงานบริการลูกค้าและศูนย์ติดต่อสอบถาม ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการบริการลูกค้าและความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษได้ดี บริษัทต่างๆ เช่น Accenture และ Convergys ได้เอาท์ซอร์สงานบริการลูกค้าของตนไปยังฟิลิปปินส์ การเอาท์ซอร์สงานบริการลูกค้าไปยังฟิลิปปินส์ช่วยลดต้นทุนค่าแรงและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้า สามารถปรับขนาดการให้บริการได้ตามปริมาณงานและฤดูกาล และให้บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  • Nike – Outsource การผลิต : Nike ได้เอาท์ซอร์สการผลิตรองเท้าและเครื่องแต่งกายไปยังประเทศต่างๆ ในเอเชีย เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และจีน เพื่อประโยชน์จากต้นทุนแรงงานที่ต่ำกว่า และโครงสร้างพื้นฐานการผลิตที่มีประสิทธิภาพ การเอาท์ซอร์สการผลิตช่วยให้ Nike สามารถลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสินค้าเข้าสู่ตลาด ทำให้บริษัทสามารถมุ่งเน้นไปที่การพัฒนานวัตกรรมและการตลาด

เหตุผลหลักของการใช้การเอาท์ซอร์สข้ามพรมแดนในยุคโลกาภิวัฒน์คือการลดต้นทุนการดำเนินงานและการเข้าถึงบุคลากรที่มีทักษะสูงในประเทศที่มีค่าแรงต่ำกว่า นอกจากนี้ยังช่วยให้บริษัทสามารถปรับตัวเข้ากับตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล

การ Outsource ในยุคโลกาภิวัฒน์จึงมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อใช้ประโยชน์จากต้นทุนแรงงานที่ถูกกว่าในประเทศกำลังพัฒนา ควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่ออำนวยความสะดวกในการบริหารจัดการงาน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจในตลาดโลก

 

outsourcing-digital transform

4.ยุคดิจิทัลทรานสฟอร์เมชัน (Digital Transformation) การเอาท์ซอร์สเพื่อมุ่งเน้นความสามารถหลักขององค์กร

(Efficiency, Specialized Skills, and Focus on Core Competencies)

ในยุคปัจจุบันที่โลกเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) อย่างเต็มรูปแบบ เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิตประจำวัน การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมได้เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานและการจัดการธุรกิจ บริษัทต่างๆ จึงเริ่มนำแนวคิดการเอาท์ซอร์สมาปรับใช้มากขึ้น เพื่อให้สามารถมุ่งเน้นไปที่ความสามารถหลักขององค์กรได้อย่างเต็มที่ การเอาท์ซอร์สในยุคดิจิทัลนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้

บริษัทจำนวนมากเลือกที่จะ Outsource งานด้านไอทีและดิจิทัลให้กับผู้ให้บริการรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ เช่น Accenture, IBM, Tata Consultancy Services เป็นต้น เพื่อให้สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องลงทุนจ้างบุคลากรและสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้วยตนเอง

ในยุคดิจิทัลทรานสฟอร์เมชันนี้ มีองค์กรธุรกิจจำนวนมากที่หันมาใช้กลยุทธ์ Outsource ในรูปแบบต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ดังนี้

  • Netflix เป็นผู้นำด้านสตรีมมิ่งรายการทีวีและภาพยนตร์ ได้ตัดสินใจ Outsource งานด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันให้กับบริษัท Pivotal ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์บนคลาวด์ การ Outsource ช่วยให้ Netflix สามารถปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว และปรับปรุงแก้ไขได้ตลอดเวลาตามความต้องการของผู้ใช้งาน
  • Coca-Cola ได้เอาท์ซอร์สการผลิตและการจัดการโลจิสติกส์ไปยังบริษัทบรรจุขวดในภูมิภาคต่างๆ เพื่อให้สามารถมุ่งเน้นการพัฒนากลยุทธ์การตลาดและการสร้างแบรนด์ การเอาท์ซอร์สนี้ช่วยให้ Coca-Cola สามารถลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายสินค้า
  • Apple ได้เอาท์ซอร์สการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปยัง Foxconn ในประเทศจีน เพื่อให้สามารถมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรม การออกแบบ และการตลาด การเอาท์ซอร์สนี้ช่วยให้ Apple สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงในปริมาณมาก และลดต้นทุนการผลิต ทำให้บริษัทสามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  • Procter & Gamble (P&G) – Outsource การบริหารจัดการไอทีและการผลิตสินค้า P&G ได้เอาท์ซอร์สงานบริหารจัดการระบบไอทีไปยัง IBM เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมและการตลาดของผลิตภัณฑ์ รวมถึงเอาท์ซอร์สการผลิตสินค้าไปยังต่างประเทศ เช่น เม็กซิโกและเวียดนาม เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ตอบสนองความต้องการของตลาดทั่วโลก
  • การ Outsource ได้รับความนิยมในหลายอุตสาหกรรมภายในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการจัดการแรงงาน การบันทึกข้อมูล และงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หนึ่งในผู้ให้บริการ Outsource ชั้นนำของไทยคือบริษัท สยามราชธานี จำกัด (SO) ซึ่งให้บริการงานจ้างแรงงานภายนอก บริการด้านไอทีและดิจิทัล รวมไปถึงการบริหารจัดการสำนักงานแบบครบวงจร

เหตุผลหลักของการใช้การเอาท์ซอร์สในยุคดิจิทัลคือการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการลดต้นทุน ด้วยการใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจากภายนอก ทำให้บริษัทสามารถมุ่งเน้นไปที่ความสามารถหลักและการขยายธุรกิจได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดได้อย่างรวดเร็วและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล

ในทำนองเดียวกัน องค์กรธุรกิจจำนวนมากต่างเลือกที่จะ Outsource กระบวนการทางธุรกิจ (Business Process Outsourcing) เช่น การบริการลูกค้า การบัญชีการเงิน การจัดซื้อจัดหา ไปให้ผู้ให้บริการรายใหญ่ เพื่อให้สามารถโฟกัสไปที่การดำเนินธุรกิจหลักขององค์กรได้อย่างเต็มที่

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าในยุคดิจิทัลทรานสฟอร์เมชันนี้ การ Outsource มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความยืดหยุ่น ลดภาระการลงทุน และช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันและการอยู่รอดในโลกธุรกิจยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้

siamrajathanee-so

SO ผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์สแบบครบวงจร หนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย ที่นำ Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น และทาง SO ยังมีการเพิ่มศัพยภาพที่แข็งแกร่งอย่างไม่หยุดนิ่งด้วยการที่มีพันธมิตรทางธุรกิจหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรทั้งไทยและทั่วโลก เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า ด้วยบริการที่ครอบคุลมและพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการในการพัฒนาธุรกิจ

Service 4 Level สำหรับทุกธุรกิจลูกค้า
1. Workforce Outsource บริการด้านบุคลากรในตำแหน่งต่างๆ เริ่มตั้งแต่การสรรหา การบริหารกำลังคน ไปจนถึงขั้นตอนการจัดการเรื่อง Payroll ครบทั้งกระบวนการ ปัจจุบัน SO บริหารบุคลากรกว่า 10,000 อัตรา ทั้งหน่วยงานราชการ และเอกชนกว่า 450 หน่วยงาน ทั่วประเทศ
2. Business Process Outsource (BPO) พัฒนาออกแบบ และบริหารจัดการกระบวนการทางธุรกิจ ที่เหมาะสมให้กับลูกค้า ด้วยการใช้ทรัพยากรด้านแรงงาน และเทคโนโลยี เพื่อการยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์ให้อยู่เหนือคู่แข่งของลูกค้า
3. Specialized Outsource บริการผู้เชี่ยวชาญสำหรับงานเฉพาะด้าน เช่น “รุกขกร” งานด้านตัดแต่งต้นไม้ และดูแลภูมิทัศน์ขนาดใหญ่, งานด้านการกำจัดของเสียสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม, การจัดหารรถพร้อมดัดแปลง และจดประกอบสำหรับงาน Logistic
4. IT Outsource & Platform บริการด้านการจัดหาบุคลากรด้าน IT และเทคโนโลยีผัจจุบัน เพื่อการพัฒนากระบวนการทำงาน เช่น เทคโนโลยี RPA, AI, OCR ฯลฯ พร้อมกับระบบที่ทาง SO พัฒนาขึ้น เช่น Digital Signature, ระบบ Time Attendance และระบบ Business Process Management (BPM)
 
จาก 4 Resource ของ SO ซึ่งเป็นส่วนหลักในการเติมเต็มให้กับ Service ทั้ง 4 Level
1.SO People ทรัพยากรด้ารบุคลากร มีความชำนาญด้านการสรรหา และคัดสรร พร้อมทั้งการพัฒนาทักษะให้กับพนักงานทุกท่าน ก่อนการจัดส่งให้บริการลูกค้า
2.SO Wheel จัดหารถเช่าทั่วไป และรถ EV ทุกประเภท พร้อมทั้งบริการดัดแปลงรถให้เหมาะสมกับธุรกิจลูกค้าตามต้องการ
3.SO Green ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการภูมทัศน์ หรือพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ทั้งการออกแบบ การดูแลต้นไม้ และสภาพแวดล้อมทั้งหมดในพื้นที่
4. SO Next บริหารจัดการข้อมูล หรือเอกสารจำนวนมาก และออกแบบกระบวนการทำงานให้กับธุรกิจลูกค้า ด้วย Lean & Digitize เพื่อการ Transformation อย่างมีประสิทธิภาพ
 

เป้าหมายของ SO คือการเป็นพันธมิตรและที่ปรึกษาให้แก่ลูกค้า โดยการมีส่วนร่วมในการกำหนดกลยุทธ์และนโยบายสำหรับการดำเนินธุรกิจ ด้วยบริการ Outsource แบบผสานงานด้านบุคลากร และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน  เรียกว่า Tech-Enabled Outsourcing Solution เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน พร้อมนำเสนอวิธีการในการแก้ปัญหาที่เหมาะสมสำหรับทุกธุรกิจ

การเอาท์ซอร์สช่วยให้องค์กรมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักได้อย่างเต็มที่ มีความยืดหยุ่นในการปรับขนาดธุรกิจตามสถานการณ์ ถ่ายโอนความเสี่ยงต่างๆ ให้ SO จัดการ พร้อมเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่และนำหน้าคู่แข่ง เป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ตามแนวคิด "Unlock Possibilities, SO Here We Are"

Five Forces Model และ บริการ Outsource ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์

SO-สยามราชธานี-Siamrajathanee-Outsource-Outsourcing-Assistants-Consultant -fiveforcess-outsource

การปรับตัวและการนำกลยุทธ์ที่เหมาะสมมาใช้เป็นสิ่งสำคัญของธุรกิจ การวิเคราะห์ด้วย Five Forces Model ช่วยให้เห็นภาพรวมของการแข่งขันและความท้าทายในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ หนึ่งกลยุทธ์จะช่วยให้การบริหารจัดการธุรกิจคุณ คล่องตัวขึ้น คือการใช้บริการ Outsourcing มีบทบาทเข้าไปช่วยให้คุณมุ่งเน้นที่ธุรกิจหลักได้อย่างเต็มที่ เพิ่มความสามารถให้การขยายธุรกิจ ลดความเสี่ยงต่างๆในองค์กร และสามารถเข้าถึงนวัตกรรมใหม่ ทำให้ธุรกิจสามารถมุ่งเน้นที่การพัฒนาบริการหลักและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างการวิเคราะห์ Five Forces Model อุตสาหกรรมโลจิสติกส์

คู่แข่งใหม่ที่เข้ามาในตลาด (Threat of New Entrants)

อยู่ในระดับปานกลาง การเข้าสู่ตลาดต้องใช้เงินลงทุนสูงในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และผ่านข้อกำหนดทางกฎหมายที่เข้มงวด อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสสำหรับผู้เล่นใหม่ที่สามารถสร้างความแตกต่าง เช่น เทคโนโลยีใหม่, บริการเฉพาะกลุ่ม หรือพันธมิตรเชิงกลยุทธ์

อำนาจการต่อรองของซัพพลายเออร์ (Bargaining Power of Suppliers)

อยู่ในระดับปานกลางถึงสูง ด้วยจำนวนผู้จำหน่ายที่จำกัด การให้บริการที่เฉพาะทาง และต้นทุนในการเปลี่ยนที่สูง ทำให้ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในการเลือกและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้จำหน่าย

อำนาจการต่อรองของลูกค้า (Bargaining Power of Buyers)

อยู่ในระดับสูง ผู้ซื้อรายใหญ่สามารถกดดันเรื่องราคาได้ ผนวกกับตัวเลือกผู้ให้บริการที่มีจำนวนมาก ทำให้ผู้ให้บริการต้องพยายามเสนอทั้งราคาที่แข่งขันได้และคุณภาพบริการที่โดดเด่น

ภัยคุกคามจากสินค้า/บริการทดแทน (Threat of Substitute Products or Services)

อยู่ในระดับปานกลาง จากทางเลือกในการขนส่งทางเลือกอื่นๆไม่ว่าจะเป็น ทางเลือกอื่นที่สามารถใช้ได้ตามประเภทสินค้าหรือความเร่งด่วน เช่น การขนส่งทางรถไฟ ทางอากาศ และทางเรือ อีกทั้งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเช่นการใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติในคลังสินค้า และการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ภายในองค์กรขนาดใหญ่เอง อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีโอกาสในการปรับตัวและพัฒนาเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน

การแข่งขันในอุตสาหกรรม (Industry Rivalry)

อยู่ในระดับที่สูงมาก ด้วยจำนวนผู้เล่นที่มีอยู่มากมาย ทำให้การแข่งขันเป็นไปอย่างเข้มข้น ผู้เล่นต้องพยายามสร้างความแตกต่างผ่านนวัตกรรม ประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการตอบสนองลูกค้าอย่างรวดเร็ว เพื่อรักษาตำแหน่งในตลาด

จากการวิเคราะห์ Five Forces Model โดยรวม อุตสาหกรรมโลจิสติกส์เผชิญปัญหาต้นทุนสูงทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน, พลังงาน, แรงงาน, และเทคโนโลยี รวมถึงการแข่งขันที่เข้มข้นจากผู้เล่นหลายราย จำเป็นต้องใช้นวัตกรรมและบริการที่มีคุณภาพเพื่อดึงดูดและรักษา การใช้บริการ Outsourcing สามารถเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยี อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการและดำเนินงาน ลดความเสี่ยงทางธุรกิจ และให้ธุรกิจมุ่งเน้นที่กิจกรรมหลักของตนเอง เพื่อเสริมสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและเพิ่มโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ

บทบาทของ Outsourcing ช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดอุตสาหกรรมโลโลจิสติกส์ได้ยังไง

การจัดการยานพาหนะและการบำรุงรักษา บริษัทโลจิสติกส์สามารถใช้บริการ Outsourcing ในการดูแลและบำรุงรักษายานพาหนะที่ใช้ในการขนส่ง ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการภายในองค์กรและรับประกันว่ายานพาหนะจะพร้อมใช้งานตลอดเวลา

การบริหารจัดการข้อมูล Outsourcing ด้านการจัดการข้อมูลเอกสาร ช่วยให้บริษัทสามารถโฟกัสที่การขนส่งและบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลภายใน

การจ้างงานและการจัดการแรงงาน การใช้บริการ Outsourcing ในการจ้างงานและการจัดการแรงงาน ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการสรรหาและฝึกอบรมพนักงาน โดยให้บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญดูแลกระบวนการนี้แทน ซึ่งส่งผลให้บริษัทสามารถหาพนักงานได้ตรงตามความต้องการอย่างรวดเร็ว

การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม บริษัทโลจิสติกส์สามารถนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้ในกระบวนการทำงาน เช่น ระบบการติดตามยานพาหนะ ,การใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลเส้นทางและลดต้นทุนในการดำเนินงานได้ โดยไม่ต้องลงทุนเอง

การบริการลูกค้าและการจัดการคำสั่งซื้อ Outsourcing ด้านการบริการลูกค้าและการจัดการคำสั่งซื้อ ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ทันใจและมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยเพิ่มความพึงพอใจกับลูกค้า เพิ่มโอกาสในการใช้บริการครั้งต่อไป

การใช้บริการ Outsourcing ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุนการดำเนินงาน เพิ่มความยืดหยุ่นในการตอบสนองต่อความต้องการของตลาด เข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน หรือการให้บริการที่ครอบคลุมและเฉพาะทาง ทั้งหมดนี้ช่วยเสริมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของประเทศไทยให้ก้าวหน้าและเติบโตได้อย่างมั่นคง ดังนั้น ไม่ว่าในอุตสาหกรรมใด การใช้บริการ Outsourcing ย่อมเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ

บริการบริหารข้อมูล ภายในองค์กร และจัดหาพนักงาน IT Outsource

So Next มุ่งเน้นให้บริการด้าน Lean Transformation และ Digitalization ในองค์กร ผ่านการให้คำปรึกษา ออกแบบกระบวนการ ค้นหาเครื่องมือที่เหมาะสม และบริหารโครงการ โดยมีเป้าหมายให้ลูกค้าสามารถโฟกัสที่ธุรกิจหลัก ปรับขนาดธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น ลดความเสี่ยง และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในองค์กร

สนใจบริการ