SO ไม่สะเทือน! ล็อกต้นทุนด้วยแผน 3 ชั้น รับมือค่าแรง 400 พร้อมรักษากำไร-เร่งโตครึ่งปีหลัง

ล็อกต้นทุนให้อยู่หมัด พร้อมเสริมพลังลูกค้าให้ “คาดการณ์-ควบคุม-ขยาย” ได้จริง แม้ต้นทุนแรงงานสูงขึ้น

  ในบริบทที่องค์กรต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจ นโยบายค่าแรง และพฤติกรรมแรงงานที่เปลี่ยนแปลงเร็ว SO ใช้โมเดล “Cost Plus + Strategic Support” ที่ไม่เพียงป้องกันผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้นเท่านั้น แต่ยัง “เปลี่ยนต้นทุนแรงงาน” ให้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ของลูกค้า

ปลดล็อกภาระโครงสร้างแรงงาน – เปลี่ยนต้นทุนแฝงให้เป็นกำไรที่ชัดเจน
  องค์กรลูกค้าไม่ต้องแบกรับภาระบริหารแรงงาน เช่น การจัดการค่าแรง สวัสดิการ ประกันสังคม การฝึกอบรม หรือภาษีแรงงาน เพราะ SO เข้ามาดูแลทุกขั้นตอนแบบครบวงจร
ผลลัพธ์ ลูกค้าลดต้นทุนแฝงที่มองไม่เห็น เช่น ค่าใช้จ่ายจากการลาออกผิดแผน หรือค่าจัดการทรัพยากรบุคคลเฉพาะกิจ พร้อมโฟกัสกับงานหลักและการเติบโตได้เต็มที่

เพิ่มขีดความสามารถแรงงาน – ด้วยระบบที่ให้มากกว่าแค่ “คน”
  พนักงานของ SO ทุกคนผ่านการคัดกรองและอบรมด้วยเกณฑ์เฉพาะตามประเภทงาน พร้อมเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีสนับสนุน เช่น Time Attendance แบบเรียลไทม์, Dashboard วิเคราะห์ productivity, และระบบ Workflow Automation ที่ออกแบบให้เหมาะกับสไตล์งานของแต่ละอุตสาหกรรม
ผลลัพธ์ ลูกค้าไม่เพียงได้ “แรงงานพร้อมใช้งาน” แต่ได้ workforce ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า และสามารถวัดผลลัพธ์ได้ในเชิงปฏิบัติ

ขยายกำลังได้ตามจังหวะตลาด – โดยไม่ต้องลงทุนล่วงหน้า
  ด้วยโครงสร้างแบบ Outsource-as-a-Platform ของ SO ลูกค้าสามารถเพิ่มหรือลดกำลังคน ยานพาหนะ หรือทรัพยากรสนับสนุนอื่นได้ทันที ตาม demand จริงในช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่ง
ผลลัพธ์ ลูกค้าเปลี่ยน Fixed Cost เป็น Variable Cost ลดความเสี่ยงเมื่อธุรกิจชะลอตัว และเร่งขยายได้ทันทีเมื่อโอกาสมา

รองรับความเสี่ยงเชิงระบบ – จากโลกที่เปลี่ยนเร็วสู่ความมั่นคงขององค์กร
โมเดลของ SO ออกแบบมาให้มีแผน B และ C สำหรับลูกค้าทุกราย ทั้งในเรื่องทรัพยากรสำรอง แผนโยกย้ายหน่วยงาน และแผนฟื้นฟูบริการ (Business Continuity Plan)
ผลลัพธ์ ลูกค้าจึงวางใจได้ว่า แม้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การระบาดของโรค การประท้วง หรือวิกฤตเศรษฐกิจ ก็ยังมี workforce และบริการที่พร้อมเดินหน้าต่อได้ทันที

“ต้นทุนใหม่” = “เครื่องมือขับเคลื่อนธุรกิจ”

  การเจรจาราคาค่าบริการในปี 2568 กับลูกค้ารายใหญ่กว่า 94% ดำเนินไปอย่างโปร่งใสและสำเร็จโดยไม่มีการสูญเสียสัญญา เพราะ SO ไม่เพียงแค่ “คิดต้นทุน” แต่ช่วยลูกค้า “ออกแบบโซลูชัน” เพื่อบริหารต้นทุนใหม่ร่วมกัน
“เรามองต้นทุนไม่ใช่ภาระ แต่เป็นกลไกหนึ่งของการเติบโต ถ้าใช้ให้เป็น ลูกค้าจะได้เปรียบทางการแข่งขันชัดเจน”
นางสาวกัณธิมา กล่าว

มองต่าง…..ไม่ใช่แค่เรื่องค่าแรง แต่คือคุณค่าของคนที่พัฒนาได้

  SO เปิดเผยว่าบุคลากรหลักในองค์กรกว่า 70% ได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว เพราะบริษัทใช้ระบบค่าตอบแทนตาม ทักษะ (Skill-Based Pay) และ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

“คนเก่งที่อยู่กับเรา พัฒนาได้ เขาไม่อยู่ในกลุ่มค่าแรงขั้นต่ำอีกแล้ว เราไม่ได้แค่ส่งคน แต่เราส่ง process, results และ solution ไปให้ลูกค้า” นางสาวกัณธิมา กล่าวเสริม

แนวคิดนี้ทำให้ SO มั่นใจว่า แม้ค่าแรงขั้นต่ำจะเพิ่มขึ้น แต่พนักงานกลุ่มหลักของ SO ได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่าตลาดอยู่แล้ว ส่งผลให้บริษัทไม่ได้รับผลกระทบในเชิงโครงสร้างต้นทุนแรงงาน

เสถียรภาพกำไรยังอยู่ SO ไม่ได้แค่รอด แต่โตต่อ

ในไตรมาสล่าสุด SO รายงานว่า

“SO พิสูจน์แล้วว่า Outsourcing ที่มีระบบ คือ พันธมิตรทางธุรกิจที่ยั่งยืนในทุกสภาวะเศรษฐกิจ”

SO ไม่ใช่ธุรกิจที่รอการเปลี่ยนแปลง แต่คือธุรกิจที่ วางแผนก่อนการเปลี่ยนแปลงจะมาถึงภายใต้
  แนวคิด “Trusted Partner & Delivering Excellence” และนี่คือเหตุผลว่าทำไม SO ไม่เพียงรับมือ แต่ยังเติบโตโตได้แม้ในภาวะที่หลายธุรกิจต้องหาทางรอด โดย SO มุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่องค์กรไทยไว้วางใจในการสร้างผลลัพธ์ที่แม่นยำ และพร้อมเดินหน้าเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกสถานการณ์