E-KYC จาก SO ครั้งแรกในประเทศไทย กับการเลือกตั้งผ่าน Blockchain ก้าวสู่มิติใหม่ของการเลือกตั้ง

ครั้งแรกในประเทศไทย ปฎิวัติการเลือกตั้งยุคใหม่ผ่าน Blockchain ที่ SO เข้าไปเป็น Strategic Partner กับกรุงเทพมหานคร ร่วมพัฒนาระบบ E-KYC นำนวัตรรมการยืนยันตัวตนออนไลน์ ไปใช้ในการเลือกตั้งสภาเด็กและเยาวชนเขตกรุงเทพมหานคร 2567 ผนึกกำลังกับ Thai ID , D-vote , BitKUB และ JIB Chain ผลักดันการมีส่วนร่วมในวงกว้าง เข้าถึงง่าย เพิ่มความโปร่งใส และเป็นนวัตกรรมที่พิสูจน์แล้วว่า สามารถพัฒนาเป็นต้นแบบระบบเลือกตั้งออนไลน์ของประเทศไทยในอนาคตได้จริง

ในการเลือกตั้งสภาเด็กและเยาวชนเขตกรุงเทพมหานคร 67 ที่ผ่านมา นับเป็นปรากฏการณ์การเลือกตั้งรูปแบบใหม่ที่เรียกได้ว่าเป็นการ Digital Transformation อย่างเต็มตัว เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งผ่านระบบ ” Blockchain ” ครั้งแรกของประเทศไทย ที่องค์กร Technology ในประเทศไทยได้ร่วมมือกันพัฒนาระบบการลงคะแนนภายใต้ Concept “โปร่งใส เป็นส่วนตัว ประสิทธิภาพสูง”  การไม่เปิดเผยผลโหวตก่อนหมดเวลาลงคะแนนและยังสามารถจัดการเลือกตั้งพร้อมกัน 30 เขตในวันเดียวกัน และเมื่อปิดหีบเลือกตั้งสามารถรู้ผลได้ทันที

E-KYC ของ SO เข้ามาช่วยในการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างไร

เราพัฒนาระบบในการเลือกตั้งครั้งนี้ร่วมกับ D-vote เพื่อใช้ในขั้นตอนการยืนยันตัวตนของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ผ่านแอปพลิเคชั่น ThaiD และคอมพิวเตอร์ แทปเล็ต มาเป็นข้อมูลของผู้ลงคะแนนในการเลือกตั้งครั้งนี้ลดปัญหาการเกิดข้อผิดพลาดในการลงคะแนนได้ทั้งหมด ประโยชน์อื่นๆ ที่ได้จากระบบนี้คือ

  1. ป้องกันการปลอมแปลง: ช่วยในการตรวจสอบตัวตนของผู้เข้าร่วมการเลือกตั้ง ทำให้ลดโอกาสในการปลอมแปลงหรือการใช้ตัวตนของบุคคลอื่นเพื่อรับสิทธิ์ในการโหวต
  2. รักษาความน่าเชื่อถือ: ช่วยให้เกิดความน่าเชื่อถือในระบบการเลือกตั้ง โดยผู้เข้าร่วมจะรู้ว่าเฉพาะบุคคลที่ได้รับการยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้นที่มีสิทธิ์ในการโหวต ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เลือกตั้งและผู้เฝ้าดูการเลือกตั้ง
  3. ป้องกันภัยคุกคาม: ช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการให้ข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้ลดความเสี่ยงในการถูกฉ้อโกงหรือการละเมิดความเป็นส่วนตัว
  4. ความสะดวกสบาย: ทำให้กระบวนการตรวจสอบตัวตนเป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ทำให้ผู้เข้าร่วมสามารถลงทะเบียนและยืนยันตัวตนได้อย่างรวดเร็ว
  5. ประหยัดค่าใช้จ่าย: ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบตัวตน ซึ่งช่วยลดความต้องการใช้ทรัพยากรมนุษย์ในกระบวนการทั้งหมด รวมถึงประหยัดทรัพยากรด้านการใช้กระดาษในการทำบัตรเลือกตั้ง
  6. ลดความผิดพลาดในเรื่องของการสวมสิทธิ์ : เนื่องจากการใช้ Technology การยืนยันตัวตนเข้ามาใช้กับการเลือกตั้ง ทำให้ผู้ที่จำลงคะแนนเสียงต้องยืนยันตัวตน ผ่านการแสกนใบหน้าของตนเอง จึงลดข้อผิดพลาดในด้านการสวมสิทธิ์ การใช้ชื่อผู้อื่นมาลงคะแนนเสียงได้

A title

Image Box text

ทำไมต้องใช้ Blockchain

  1. ความโปร่งใสและตรวจสอบได้:  Blockchain ทำให้ทุกคนสามารถตรวจสอบข้อมูลที่บันทึกโดยไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้ระบบเลือกตั้งมีความโปร่งใสและลดการโกง จากการที่ผู้ลงคะแนนเสียงได้เลือกลงคะแนนให้ผู้ลงสมัครเลือกตั้งแล้ว ข้อมูลจะถูกนำส่งไปเก็บไว้ใน Blockchain ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ ทำให้ลดโอกาสการทุจริต และความผิดพลาดของการนับคะแนน
  2. ความปลอดภัย: การใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสในการบันทึกข้อมูลบน Blockchain ทำให้ข้อมูลการเลือกตั้งปลอดภัยจากการถูกแฮ็กหรือการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต
  3. ความเร็วและประหยัด: การนับคะแนนเสียงสามารถทำได้เร็วขึ้นและลดค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้ง เนื่องจากไม่ต้องพึ่งพากระบวนการดั้งเดิมที่ใช้เวลาและทรัพยากรมาก

อนาคตของการเลือกตั้งกับ Blockchain

อนาคตของการเลือกตั้งกับเทคโนโลยี blockchain ดูสดใส เนื่องจากสามารถเสนอวิธีการใหม่ที่ปลอดภัย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพในการจัดการและตรวจสอบการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายที่ต้องเอาชนะ เช่น ปัญหาเกี่ยวกับการเข้าถึงเทคโนโลยี การรับรองความถูกต้องของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในระบบใหม่นี้

การพัฒนาและการทดลองใช้ blockchain ในการเลือกตั้งได้เริ่มต้นขึ้นในหลายประเทศแล้ว ซึ่งคาดว่าจะช่วยปรับปรุงความถูกต้อง ความเป็นธรรม และความไว้วางใจในกระบวนการเลือกตั้งได้ ด้วยการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ อนาคตของการเลือกตั้งอาจก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมและมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง

การเลือกตั้งที่ใช้ blockchain อาจยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่โอกาสและศักยภาพที่มีอยู่นั้นมหาศาล การทำความเข้าใจและการทดลองใช้เทคโนโลยีนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในวิธีที่เรามองเห็นและจัดการกับการเลือกตั้งในอนาคต

KYC กับทิศทางและอนาคตของการเลือกตั้ง

จากปรากฎการณ์การเลือกตั้งครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า Technology สามารถเข้ามาช่วยจัดการกระบวนการลงคะแนนเลือกตั้งได้ทั้งหมด ลดเวลาในการเดินทางไปลงคะแนนเสียง การป้องกันบัตรเสีย และความผิดพลาดในด้านการยืนยันตัวตนของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน นับเป็นการ Decentralize โปร่งใส และ Realtime เพราะรู้ผลการเลือกตั้งทันที โมเดลการเลือกตั้งออนไลน์ครั้งนี้ เป็นก้าวแรกของการที่การเลือกตั้งสามารถใช้ Techonology เข้ามาปรับปรุงกระบวนการการทำงาน

Unlock Possibility SO Here We Are

 

SO ผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์สแบบครบวงจร  

หนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย ที่นำ Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น และทาง SO ยังมีการเพิ่มศัพยภาพที่แข็งแกร่งอย่างไม่หยุดนิ่งด้วยการที่มีพันธมิตรทางธุรกิจหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรทั้งไทยและทั่วโลก เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า ด้วยบริการที่คลอบคุลมและพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการในการพัฒนาธุรกิจ ได้แก่ 

  1. SO Next: โซลูชันด้านการ Lean & Digitization ปรับองค์กรให้คล่องตัวขึ้น โดยให้บริการด้านการจัดการข้อมูล (Data Solution) ด้านแพลตฟอร์มทางธุรกิจ เช่น Business Process Management และด้าน IT Outsource Operation เพื่อสรรหาบุคลากรด้าน IT SO ผู้ให้บริการ KYC และ Tech-Enabled Outsourcing 
  2. SO People: โซลูชันการจัดหาและบริหาร Workforce ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี เช่น พนักงานขับรถ, พนักงานธุรการ, พนักงานบัญชี ,ช่างเทคนิค รวมถึงบริการจัดหาแรงงานต่างด้าว เป็นต้น 
  3. SO Green: โซลูชันบริหารภูมิทัศน์ด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านพื้นที่สีเขียวและไม้ใหญ่ โดยทีมออกแบบและรุกขกรมืออาชีพ 
  4. SO Wheel: ผู้นำด้านรถดัดแปลงและรถเช่าเชิงพาณิชย์ พร้อมระบบติดตามและจัดการยานพาหนะที่สามารถแจ้งเตือนตำแหน่งรถ,อันตราการใช้ความเร็ว  รอบการ Maintenance ไปจนถึงระบบการจองรถส่วนกลางสำหรับองค์กรขนาดใหญ่อีกด้วย นอกจากการมุ่งเน้นพัฒนาบริการให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแล้ว SO พร้อมสานต่อความสำเร็จจากผลประกอบการในปี 2023 ที่เติมโตต่อเนื่องกว่า 30% ด้วยการยกระดับการให้บริการ สู่ Journey to Next-Level Outsourcing ในปี 2024 พร้อมดำเนินการผ่าน 3 Empower ได้แก่ 

Empower Brand เดินหน้าสู่ การเป็น Tech-enabled Outsourcing ด้วยการผสานเทคโนโลยีเข้ามาในทุกกระบวนการทำงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพของ SO ให้แข็งแกร่งและพร้อมส่งมอบบริการที่มีคุณภาพให้แก่ลูกค้าของเรา 

Empower Sales ด้วยการ Up Skills สู่การเป็นที่ปรึกษากระบวนการทางธุรกิจ พร้อมนำเสนอทางเลือกใหม่ๆ ให้กับลูกค้า เพื่อตอบโจทย์ Pain Point และใช้ Outsouce ในการเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการพัฒนาองค์กร 

Empower Operation พัฒนาระบบ Lean & Digitization เสริมแกร่งให้ทีมปฎิบัติการของ SO เพิ่มศักยภาพของทีม ให้สามารถบริหารโครงการได้อย่างรวดเร็วถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด 

เพื่อมุ่งสู่การเป็น Strategic Partners ที่พร้อมส่งมอบ Solutions ที่ดีที่สุด ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของ SO และพาร์ทเนอร์ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน”