RPA คืออะไร? ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่อย่างไร? หนึ่งในบริการจาก SO

มากกว่างาน Outsource Service ที่ บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ให้บริการในปัจจุบันแล้ว ยังมีหนึ่ง Solution ที่ตอกย้ำการเป็นบริษัท Tech-Enable Outsource นั่นคือระบบ Robotic Process Automation (RPA) เพื่อช่วยจัดการกระบวนการ การทำงานของธุรกิจลูกค้า ให้ถูกต้องแม่นยำมากยิ่งขึ้น ซึ่งในบทความนี้ จะให้คำตอบว่า RPA คืออะไร ? ตอบโจทย์ธุรกิจในยุคปัจจุบันอย่างไร?

RPA คืออะไร (Robotic Process Automation)

          Robotic Process Automation (RPA) คือเทคโนโลยีที่ช่วยให้ จำลองการทำงานของมนุษย์ให้ออกมาในรูปแบบการใช้งานที่เรียกว่า “บอท” หรือ ซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันต่างๆ ซึ่งบอทเหล่านี้สามารถทำงานได้หลากหลาย ตามการออกแบบของเรา เพื่อช่วยจัดการกับกระบวนการ การทำงานของแต่ละธุรกิจ เช่น การป้อนข้อมูล, การคำนวณ, การจัดการและการบันทึกไฟล์ ฯลฯ ซึ่งมีลักษณะเป็นการทำงานแบบซ้ำๆ จำนวนมาก ใช้ความแม่นยำสูง

ประเภทการทำงานของ RPA 

          RPA ประกอบด้วยส่วนประกอบหลายส่วน ที่ช่วยให้สามารถคำนวณ และวิเคราะห์กระบวนการ การทำงานของแต่ละธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

                  RPA Bots : เป็นบอท, ซอฟต์แวร์ ที่ทำงานตามกฎหรือลำดับขั้นตอนที่กำหนดไว้ เพื่อทำซ้ำกระบวนการเดิมๆ ได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องมีการเข้าแทรกจากผู้ใช้งาน 

                  Control Room / Dashboard : เป็นส่วนที่ใช้สำหรับการจัดการและควบคุมบอท ประกอบด้วยฟังก์ชันสำหรับการตั้งค่า, การติดตาม และการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของบอท 

                  Development Tools : เครื่องมือที่ใช้สำหรับการสร้างและปรับแต่ง ซึ่งรวมถึงการออกแบบลำดับขั้นตอน, การทดสอบ และการดีบัก 

                  Integration Tools : เครื่องมือที่ช่วยให้ RPA สามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ ในองค์กร เช่น ระบบ ERP, CRM หรือฐานข้อมูล 

โดยการทำงานแต่ละประเภทของ RPA จะขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะของกระบวนการ ในแต่ละธุรกิจองค์กร

โดยจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก 

          1.Attended Automation บอทประเภทนี้ จะทำงานร่วมกับมนุษย์ในกระบวนการต่างๆ ที่ออกแบบไว้ มักใช้ในกระบวนการที่ต้องการการตัดสินใจจากมนุษย์รวมด้วยระหว่างการใช้งาน เช่น บอทที่ช่วยให้พนักงานป้อนข้อมูล หรือการจัดการงาน ที่ต้องใช้ตรรกะหรือวิธีการเฉพาะจากผู้ใช้ 

          2.Unattended Automation บอทที่ทำงานโดยอัตโนมัติเต็มรูปแบบโดยไม่ต้องการการตัดสินใจ หรือวิธีการเฉพาะจากมนุษย์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีลำดับขั้นตอนการทำงานชัดเจนและซ้ำๆ เช่น การประมวลผลธุรกรรมทางการเงิน หรือการปรับปรุงข้อมูลในฐานข้อมูล 

          3.Hybrid RPA บอทที่ผสมผสานระหว่าง Attended และ Unattended Automation สามารถทำงานได้ทั้งในสองรูปแบบ เพื่อการจัดการกระบวนการที่ จำเป็นต้องใช้การตัดสินใจจากผู้ใช้ ควบคู่ไปกับการ แบบซ้ำๆตามลำดับด้วย 

RPA มีความสำคัญ หรือข้อดีอย่างไร เพื่อช่วยเหลือธุรกิจและองค์กร 

          1.เพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงาน ด้วยระบบอัตโนมัติของ RPA สามารถจัดการกับกระบวนการที่ต้องทำซ้ำๆ ช่วยลดเวลาที่ใช้ในการทำงานที่ซ้ำซากและต้องการความแม่นยำสูง เช่น การป้อนข้อมูลหรือการประมวลผลเอกสาร พร้อมกับสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชม.โดยไม่มีการหยุดพัก ทำให้กระบวนการทางธุรกิจไม่ถูกขัดจังหวะ

          2.ลดต้นทุนด้านแรงงาน ช่วยลดความต้องการในการจ้างบุคลากรในบางขั้นตอนของกระบวนการการทำงานได้ ซึ่งอาจเป็นขั้นตอนงานที่ทำในรูปแบบเดิมๆ ไม่เพิ่มมูลค่า หรือเป็นขั้นตอนหลักที่วางระบบ ให้ RPA จัดการแทนได้

          3.ปรับปรุงคุณภาพของงาน ด้วยความแม่นยำและความเชื่อถือได้ เนื่องจาก RPA มีความแม่นยำสูงและถูกต้องตามการวางโปรแกรม สามารถลดความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ได้ 

          4.การปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและพนักงาน ด้วยการทำงานที่รวดเร็วของ RPA เนื่องจากเป็น บอทหรือโปรแกรมที่เขียนขึ้น ทำให้เกิดผลลัพธ์และการจัดการคำขอของลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น พร้อมกับลดปริมาณงาน Routine ให้กับพนักงาน ทำให้พนักงานสามารถมุ่งเน้นไปที่งานหลัก ที่สำคัญและต้องการทักษะเฉพาะทางมากขึ้น

          5.การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง RPA มีความยืดหยุ่น ในการปรับสเกลของปริมาณงานได้ตามต้องการ สามารถปรับเพิ่ม หรือลดขนาดการทำงานได้อย่างง่ายดายเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงจากลูกค้าและองค์กร ช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวได้เร็วขึ้นต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดหรือข้อกำหนดทางกฎหมาย 

RPA-LS

ธุรกิจ หรือองค์กรใดบ้าง ที่ควรนำ RPA เข้าไปช่วยจัดการ          

1.ธุรกิจการเงินและการธนาคาร

ธนาคารและสถาบันการเงินมักมีกระบวนการที่ซ้ำๆ เช่น การทำบัญชี, การจัดการการเงิน, การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ซึ่ง RPA สามารถออกแบบวางการจัดการอัตโนมัติ ให้กับกระบวนการเหล่านี้ได้

2.อุตสาหกรรมประกันภัย

กระบวนการเช่น การประมวลผลเคลมประกัน, การจัดการข้อมูลลูกค้า, การบันทึกข้อมูลกรมธรรม์ที่มีจำนวนมาก ซึ่ง RPA ช่วยลดระยะเวลาการทำงาน และความผิดพลาดจากพนักงานได้

3.การดูแลสุขภาพ

การจัดการข้อมูลผู้ป่วย, การจัดการเอกสารทางการแพทย์, การประมวลผลการเรียกเก็บเงิน ทั้งในส่วนของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และคลินิกทั่วไป ก็สามารถนำ RPA เข้าไปช่วยงานได้

4.อุตสาหกรรมการผลิต

การจัดการสต็อกและอุปกรณ์, การติดตามกระบวนการผลิต, การจัดการข้อมูลการจัดส่ง หรือแม้แต่กระทั้งการจัดการและติดตามเรื่องการขนส่ง

5.การค้าปลีก, e-Commerce และการบริการลูกค้า

การจัดการคำสั่งซื้อ, การประมวลผลการคืนสินค้า, การจัดการ จัดเก็บข้อมูลลูกค้า การใช้บอทตอบคำถามซ้ำๆหน้า Page

6.ธุรกิจ HR และการบริหารทรัพยากรมนุษย์

กระบวนการจ้างงาน, การจัดการข้อมูลพนักงาน, การจัดการเงินเดือนและผลประโยชน์, ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรเกิดความผิดพลาด

แนวโน้มในอนาคต 

          การใช้ RPA คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากธุรกิจต่างๆ มองเห็นประโยชน์ในการลดต้นทุน, การเพิ่มความเร็วและความแม่นยำในการทำงาน และการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและพนักงาน. นอกจากนี้, การรวมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง, จะทำให้ RPA มีความสามารถและความฉลาดมากขึ้น, สามารถจัดการกับงานที่ซับซ้อนและมีค่าเพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วย

RPA-LS-2

RPA มีข้อเสียอย่างไรบ้าง

ในขณะที่ Robotic Process Automation (RPA) มีข้อดีมากมายสำหรับธุรกิจและองค์กร แต่ก็ยังมีข้อเสีย หรือข้อจำกัดที่ควรพิจารณาด้วยเช่นกัน          

1.ข้อจำกัดในความซับซ้อน ไม่สามารถจัดการกับงานที่มีความซับซ้อนสูง RPA ทำงานได้ดีกับกระบวนการที่มีกฎหรือลำดับขั้นตอนที่ตายตัวชัดเจน แต่อาจไม่สามารถจัดการกับงานที่ต้องการการตัดสินใจที่ซับซ้อน หรืองานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์ ทักษะเฉพาะทางจากพนักงาน          

2.ความต้องการในการบำรุงรักษาและอัปเดต RPA เป็นระบบที่ถูกเขียนขึ้นในรูปแบบของ บอทหรือซอฟต์แวร์ ทำให้ต้องมีการบำรุงรักษาและอัปเดต อย่างสม่ำเสมอ เพื่อการแก้ใขข้อบกพร่อง และทำให้บอททำงานได้รวดเร็ว ฉลาดมากขึ้นด้วย          

3.ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและฝึกอบรม RPA อาจมีค่าใช้จ่ายสูงในช่วงเริ่มแรก ซึ่งจะเป็น ค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง และการเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งาน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมพนักงาน ทั้งในส่วนของผู้ใช้งาน และผู้ดูแลระบบด้วย          

4.ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนด การใช้ RPA สร้างความเสี่ยงในด้านความปลอดภัยของข้อมูล โดยเฉพาะหากมีการจัดการข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ซึ่งต้องมีผู้เชี่ยวชาญดูแล และให้ความสำคัญ กับการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง        

5.ความต้องการในการเตรียมพร้อมด้านเทคนิค ความต้องการทีม IT ที่มีทักษะสูง เพื่อการดูแลและนำ RPA เข้ามาใช้งาน การแก้ใขข้อบกพร่องต่างๆ การออกอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับการวางระบบ Cyber Security เพื่อการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ

          “Robotic Process Automation (RPA) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยอัตโนมัติกระบวนการทางธุรกิจ โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบอทเพื่อจำลองการทำงานของมนุษย์ในการปฏิสัมพันธ์กับระบบคอมพิวเตอร์และแอปพลิเคชันต่างๆ RPA นำเสนอข้อดีมากมาย รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพ, ลดต้นทุน, ลดความผิดพลาดจากมนุษย์, และเพิ่มความเชื่อถือได้ในกระบวนการทางธุรกิจ นอกจากนี้ยังช่วยให้พนักงานสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่มีค่าเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม RPA ยังคงมีข้อจำกัดบางประการ เช่น จำเป้นต้องมีผู้เชี่ยวชาญควบคุมดูแลติดตั้ง, ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและฝึกอบรม, ปัญหาการรวมกับระบบเก่า และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล”

          ซึ่งการที่จะพัฒนา RPA ให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยได้นั้น จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญเพื่อการติดตั้งและวางระบบ รวมไปถึงการวิเคราะห์กระบวนการการทำงานของแต่ละธุรกิจ เพื่อให้ RPA ทำงานได้อย่างสอดคล้อง และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดย SONEXT เป็นผู้ให้บริการระบบ RPA แบบเต็มรูปแบบ ทั้งในส่วนของการวิเคราะห์กระบวนการของลูกค้า ออกแบบระบบให้เข้ากับการทำงาน รวมไปถึงดูแลและปรับปรุงให้จนจบกระบวนการ… “ให้ SO NEXT เป็นผู้ช่วยธุรกิจคุณ เพื่อการ LEAN & DIGITIZE YOUR BUSINESS แล้วการทำงานของคุณจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ติดต่อขอคำปรึกษาจาก SONEXT ฟรี

PHONE : 090-197-8521

WEBSITE : https://www.sonext.asia

LINE OFFICIAL : @SONEXT

EMAIL : [email protected]

SO จับมือ Republic Crypto จัดทัพ Business Analyst เทคโนโลยีบล็อกเชน บุกตลาดเซาท์อีสต์เอเชีย เล็งใช้ไทยเป็นฐานปฎิบัติการ

บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์สที่มีพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีระดับโลก ใช้โมเดล Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจให้มีประสิทธิภาพแบบครบวงจรหนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ไทย ร่วมกับ Republic Crypto ผู้นำในการให้บริการที่ปรึกษาการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรม Blockchain ระดับโลก ลงนาม MOU เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อจัดหาทีม Business Analystเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) และคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) หวังเจาะตลาดและให้บริการลูกค้าภายในภูมิภาคเซาท์อีสต์เอเชียโดยมี SO เป็นตัวแทนและใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการ

นายณัฐพล วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO กล่าวว่า “SO ร่วมมือกับ Republic Crypto ในครั้งนี้ เพื่อต่อยอดความแข็งแกร่งของ SO ซึ่งเราเป็นผู้นำตลาด Workforce ในปัจจุบัน โดยเราเล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจจัดหาบุคลากร High Skill Business Analyst ซึ่งเรามีประสบการณ์การจัดหา Offshore Business Analyst ให้แก่กองทุนในประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่แล้วในปัจจุบัน เราคิดว่าการจับมือครั้งนี้มีโอกาสเพิ่มโอกาสการใช้บุคลากรไทยที่มีความสามารถได้เข้าทำงานในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในต่างประเทศ ผ่านการจ้างงาน Outsource และช่วยเป็นแขนขาให้บริษัทต่างประเทศมี Local Support ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ในขณะที่ SO จะได้โอกาสในการขยายฐานลูกค้าของบริการ High Skill Labor ไปต่างประเทศเพิ่มขึ้น และสามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่บริการ Outsource ของเราได้อย่างต่อเนื่อง”

Alex Ye, Senior Director จาก Republic Crypto ได้ระบุว่า “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่เราเชื่อมั่นมานานว่ามีศักยภาพสูงสุดสำหรับการนำเทคโนโลยี Decentralized มาใช้จริง ๆ  เรามีความตื่นเต้นอย่างมากที่จะเป็นพาร์ทเนอร์กับ SO เพื่อเพิ่มการเข้าถึงภูมิภาคอาเซียนของเรา เราจะสามารถนำกลยุทธ์ของเราไปปรับใช้และปรับแต่งให้เหมาะสมที่สุดแก่องค์กรชั้นนำเพื่อให้บริการในภูมิภาค รวมถึงส่งรายงานวิจัยตลาดที่ทันสมัยแก่สถาบันชั้นนำ โดยการสนับสนุน Business Analyst ชาวไทยรุ่นใหม่จาก SO ที่จะเป็น Innovate Partner กับเราในระยะยาว”

เกี่ยวกับ สยามราชธานี จำกัด (มหาชน)

SO ผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์สแบบครบวงจร หนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย ที่นำ Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น และทาง SO ยังมีการเพิ่มศัพยภาพที่แข็งแกร่งอย่างไม่หยุดนิ่งด้วยการที่มีพันธมิตรทางธุรกิจหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรทั้งไทยและทั่วโลก เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า โดยปัจจุบัน SO แบ่งการให้บริการเป็น 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่

    SO Next : โซลูชันด้านการ Lean & Digitization องค์กรให้คล่องตัวขึ้น โดยให้บริการด้านการจัดการข้อมูล (Data Solution) ด้านแพลตฟอร์มทางธุรกิจ เช่น Business Process Management และด้าน IT Outsource Operation เพื่อสรรหาบุคลากรด้าน IT

    SO People : โซลูชันการจัดหาและบริหาร Workforce ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี เช่น พนักงานขับรถ, พนักงานธุรการ, พนักงานบัญชี ,ช่างเทคนิค รวมถึงบริการจัดหาแรงงานต่างด้าว เป็นต้น

    SO Green : โซลูชันบริหารภูมิทัศน์ด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านพื้นที่สีเขียวและไม้ใหญ่

    SO Wheel : ผู้นำด้านรถดัดแปลงและรถเช่าเชิงพาณิชย์

เกี่ยวกับ Republic Crypto

Republic Crypto เป็นผู้คำปรึกษาในอุตสาหกรรม Blockchain/ Cryptocurrency, การ Tokenization ครบวงจร, การวางโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชน, และการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล โดย Republic Crypto เป็นส่วนหนึ่งของ Republic ที่เป็น บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกด้านการทำ Digital transformation ในอุตสาหกรรมการเงิน Republic เปิดโอกาสให้มีการนำทรัพย์สินมูลค่า 2.6 พันล้านเหรียญ ของสมาชิกผู้ลงทุนจำนวน 3 ล้านคน จากกว่า 150 ประเทศ ไปลงทุนในบริษัทเอกชนต่างๆ โดย Republic ได้รับการสนับสนุนจาก Valor Equity Partners, Galaxy Interactive, Morgan Stanley, Hashed, AngelList, และสถาบันการเงินระดับโลกอื่นๆ อีกมากมาย มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ New York และมีสาขาทั้งใน ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเกาหลีใต้

SO ยกระดับบริการดูแลสวน ด้วยการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร “EMPOWER OPERATION”

บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์ส ที่มีพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีระดับโลก ใช้โมเดล Tech-enabled Outsourcing Solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจให้มีประสิทธิภาพแบบครบวงจร หนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ไทย โดยในปีที่ผ่านมา มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุในสถานที่ปฏิบัติงานเป็นศูนย์  โดยเกิดจากการที่ SO ได้ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรมด้านความปลอดภัยในการทำงานอย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นว่ โครงการ Empower Operation เพื่อความยั่งยืนนั้น สามารถ Upskill ของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยให้ปฏิบัติงานในไปทิศทางที่ถูกต้องและปลอดภัยมากขึ้น ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความมั่นใจในการทำงาน จากได้ปฏิบัติตามกระเบียบและข้อกำหนดของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน

นอกเหนือจากนั้นยังเพิ่มศักยภาพในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทำให้ SO ได้รับการยอมรับในตลาดที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง ทำให้เป็นอันดับเป็นหนึ่งในองค์กรชั้นนด้านธุรกิจ Outsource ที่สามารถ Unlock Possibilities ปลดล็อคทุกความเป็นไปได้ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด สามารถดำเนินงานให้สำเร็จได้ในระยะเวลาที่กำหนด ไร้ปัญหาในการหยุดปฏิบัติงาน เนื่องจากอุบัติเหตุ

จากบทความข้างต้น จึงทำให้เกิดการจัดกิจกรรมอบรมต่อยอดพัฒนาศักยภาพบุคลากร “EMPOWER OPERATION” ในหัวข้อ ความปลอดภัยและอาชีวอนามัยเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ให้เจ้ากับหน้าที่ความปลอดภัย (Safety Officer) ระดับหัวหน้างาน เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับ ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ตามประกาศจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน “การจัดให้เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน บุคคากร หน่วยงาน หรือคณะบุคคลเพื่อดำเนินการด้านความในสถานประกอบกิจการ พ.ศ. 2565” พร้อมทั้งยังเป็นการ ยกระดับการให้บริการดูแลสวน และยกระดับการดูแลลูกค้า เมื่อวันที่ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา 

ในการการจัดอบรมครั้งนี้ SO มีวัตถุประสงค์จัดขึ้นเพื่อเป็นการเป็นยกระดับพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในระดับหัวหน้างานของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในทำงาน ให้มีทักษะในการวางแผน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในกระบวนการและยังต้องสามารถควบคุมการดูแลเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน สามารถวิเคราะห์ สอบสวน ประเมินความเสี่ยง โดยทำการระบุเหตุการณ์ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายในสถานที่ประกอบการ เพื่อนำมาป้องกันและลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุที่จะเกิดในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้

นอกเหนือจากความปลอดภัยในพื้นที่ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่แล้ว การอบรม ครอบคลุมไปถึงการให้บริการลูกค้าที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบการดูแลของ SO ให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล  โดยเจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงาน ต้องมีความปลอดภัย ไม่เกิดการบาดเจ็บ ทุพพลภาพ เสียชีวิตจากเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุเนื่องมาจากการทำงาน ตามหลักพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชนสากล  และลูกค้ายังสามารถลดโอกาสการเกิดความเสียหายกับทรัพย์สินของลูกค้า ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากอุบัติเหตุ เช่น ค่าใช้จ่ายการซ่อมแซมเครื่องมือ วัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ที่เสียหายจากอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลเจ้าหน้าที่ เวลาในการปฏิบัติงาน รวมไปถึงการรักษาภาพลักษณ์ขององค์กร

สิ่งที่องค์กร และลูกค้าในความดูแลของ SO จะได้รับ จากการอบรมเจ้ากับหน้าที่ความปลอดภัย หรือ จป. (Safety Officer) ระดับหัวหน้างาน 

สำหรับพนักงานผู้ปฏิบัติงาน: 

1.พัฒนาความรู้ให้กับผู้ปฏิบัติงาน ได้เข้าใจถึงกฎหมายแรงงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน รวมไปถึงกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่เป็นพื้นฐานในการดำเนินงานทางด้านความปลอดภัยขององค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ 

2.เพิ่มทักษะสมรรถภาพการทำงาน พื้นฐานเกี่ยวกับหลักความปลอดภัย การประเมินความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอันตราย หรือความเสียหายระหว่างการปฏิบัติงาน 

3.สร้างทีมที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเกิดจากการบริหารของหัวหน้างาน ถ่ายทอดให้กับทีม ได้ตระหนักถึงสิ่งสำคัญของบทบาทและหน้าที่ ในฐานะเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน 

สำหรับลูกค้าผู้รับบริการ: 

1.ได้รับบริการที่มีคุณภาพ จากการอบรมทำให้พนักงานมีความรู้เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าได้รับบริการที่มีคุณภาพมากขึ้น ลดความเสี่ยงจากอันตรายหรืออุบัติเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินต่างๆภายในพื้นที่หน้างาน 

2.ความน่าเชื่อถือด้วยการรับรองของหลักสูตรจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเป็นการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยในระดับองค์กรระหว่างผู้ให้บริการ และลูกค้าผู้รับบริการ 

3.การตอบสนองที่รวดเร็วเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นในพื้นที่ของลูกค้า พนักงานที่ได้รับการอบรม จะมีความสามารถในการประเมินป้องกันและควบคุมการเกิดอุบัติเหตุจากการปฎิบัติงาน ช่วยทำให้เหตุการณ์เกิดความเสียหายได้อย่างน้อยที่สุด 

SO ได้ดำเนินการขับเคลื่อนสิทธิด้านความมั่นคงในเรื่องของความปลอดภัยควบคู่กับการดำเนินธุรกิจมีประสิทธิภาพ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่ดี และความปลอดภัยในระหว่างปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน โดยบริหารจัดการพื้นที่ปฏิบัติงานและสภาพแวดล้อมให้มีความปลอดภัยตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในบริการของ SO ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พร้อมพัฒนาไปสู่การเป็น Strategic Partners ที่ส่งมอบ Outsource Solutions ที่ดีที่สุดและเป็นผู้ช่วยในการขับเคลื่อนองค์กรของลูกค้าให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

Business Partner กุญแจสู่การทำธุรกิจในยุค Marketing 6.0

Business Partner คือ ?

Business Partner คือ พันธมิตรทางธุรกิจ หรือ คู่ค้า ที่จะช่วยส่งเสริมธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงโดยมีส่วนสำคัญในการร่วมวางแผนการทำงานและกำหนดกลยุทธ์ของบริษัทในแต่ละโปรเจค โดยบริษัทหรือองค์กรขนาดใหญ่ในปัจจุบัน ล้วนมีความต้องการในการพัฒนางานและบุคลากรในส่วนต่างๆ ที่เป็นส่วนสำคัญขององค์กร อาทิเช่น งานด้านทรัพยากรบุคคล ที่มีความซับซ้อนในการบริหารจัดการ และ งานด้านการตลาดและฝ่ายขาย ที่ต้องมีการวิเคาระห์ข้อมูลและต้องอาศัยการบริหารจัดการข้อมูลในปริมาณมาก เพื่อศึกษาพฤติกรรมและออกแบบการให้บริการที่ดีและสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นต้น ซึ่งกระบวนต่างๆ ในการบริหารจัดการไม่ว่าจะเป็น การสรรหา การพัฒนาศักยภาพ รวมไปถึงสนับสนุนการเติบโตในสายอาชีพ ล้วนเป็นต้นทุนและความเสี่ยงที่บริษัทต้องแบกรับหากไม่สามารถรักษาบุคลากรให้อยู่กับองค์กรได้อย่างต่อเนื่อง   

การมีพันธมิตรทางธุรกิจ ที่สามารถแบกรับความเสี่ยงในการบริหารจัดการแทนองค์กรได้ จะทำให้บริษัทสามารถลดต้นทุนในการดำเนินการ และสร้างความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ  นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถลดหรือขยายขนาดองค์กรได้อย่างคล่องตัว เพื่อเตรียมพร้อมรับมือความเปลี่นแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต  

การหา พันธมิตรทางธุรกิจ ที่มีความชำนาญในส่วนนั้นๆเข้ามาทำงานแทน เรียกว่า Outsourcing services ซึ่งในปัจจุบันหลายบริษัทมีการเลือกใช้บริการ Outsourcing services มากยิ่งขึ้น สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากบทความ “Outsource คืออะไร ทำไมบริษัทชั้นนำจึงเลือกใช้บริการ”  

ารมี Business Partner ที่ครบวงจรส่งผลดีต่อองค์กรอย่างไร

  • สามารถช่วยสร้างกลยุทธ์ใหม่ๆที่ตอบโจทย์ในการดำเนินธุรกิจ  
  • มีระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นคล่องตัวมากยิ่งขึ้น 
  • ช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการและช่วยเพิ่มผลตอบแทนทางการเงิน 
  • สามารถลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ทั้งในด้านความเสี่ยงทางการเงิน (Financial Risk), ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ (Strategic Risk) และ ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ(Operational Risk) เป็นต้น 
  • สร้างความเชื่อมั่นให้กับองค์กรและนักลงทุน 

การทำธุรกิจในยุค Marketing 6.0   

Marketing 6.0 หรือ Immersive Marketing คือการทำการตลาด้วยการผสานโลกจริง และโลกเสมือนเข้าด้วยกัน ด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามสถาณะการณ์และช่วงเวลาต่างๆ เช่น การใช้งานสื่อโซเชียลมีเดียในแต่ละช่วงเวลา, ความสนใจในสถาณะการณ์ต่างๆของแต่ละกลุ่มบุคคล, สิ่งที่กลุ่มลูกค้ากำลังตามหา รวมไปถึงประสบการณ์ที่ผู้บริโภคจะได้รับทั้งก่อนและหลังการเลือกซื้อสินค้าและบริการ 

5 เทคโนโลยีสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ  

  1. Internet of Things (IoT) การเก็บรวมรวมข้อมูลของต่างๆของผู้บริโภค ทั้งพฤติกรรม,ความสนใจต่างๆ เพื่อนำมาวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดและการพัฒนาสินค้าเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค
  2. เทคโนโลยี AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ไม่ว่าจะเป็น Chat GPT , Canva , หรือ rytr.me ที่เริ่มมีบทบาทในชีวิตประจำวันของนักเรียนนักศึกษารวมไปถึงกลุ่มคนวัยทำงานมากขึ้น เพราะปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้ถือเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญ ในการเก็บรวบรวมความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค ที่องค์สามารถใช้ประโยชน์ได้ เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ในทุก Generations
  3. Blockchain เทคโนโลยีการจัดเก็บและดูแลข้อมูล ที่มีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัยและสามารถเรียกดูข้อมูลจำนวนมากได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
  4. เทคโนโลยี AR/VR หรือการสร้าง Interface ในสถาณการณ์ต่างๆ ได้อย่างสมจริง เป็นการเปิดให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับประสปการณ์การใหม่ๆ ในตัวสินค้าและบริการมากยิ่งขึ้น
  5. 3D Asset Creation เทคโนโลยีสำหรับออกแบบสินค้าสำหรับใช้ในโลกเสมือน ที่ไม่สามารถจับต้องได้ แต่มีมุลค้าในโลกจริง อาทิเช่น ไอเทมในเกมส์ออนไลน์, feature ใหม่ๆใน แอพลิเคชั่น version Premium เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามาารถใช้ออกแบบกลยุทธ์ทางการตลาด สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะได้อีกด้วย

SO พร้อมเป็น Business Partner สำหรับการแข่งขันในยุค Marketing 6.0  

บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์สที่มีพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีระดับโลก ใช้โมเดล Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจให้มีประสิทธิภาพแบบครบวงจรหนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ไทย พร้อมในการเป็นเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตของลูกค้า ด้วยความประสบการณ์กว่า 47 ปี เราดูแลสัญญามากกว่า 700 สัญญา Retention rate 90% มีฐานข้อมูลผู้สมัครมากกว่า 200,000 ราย และมีโปรแกรมเมอร์มากกว่า  30 คนที่สามารถออกแบบโปรแกรมรวมไปถึงระบบในการทำงานได้ตามความต้องการ พร้อมด้วยการบริการที่ครอบคลุมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น Workforce Services, Digitize & Data Services, Landscape และ Car Rental Service นอกจากนี้เรายังร่วมมือกับ Partners ของเราในการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาผสานกับการให้บริการเพื่อต่อยอดธุรกิจเอาท์ซอร์ส (Outsource) ของเรา อาทิเช่นเทคโนโลยี Robotic Process Automation (RPA) เทคโนโลยี Enterprise AI และเทคโนโลยี Optical Character Recognition (OCR) โดยในปี 2567 เรามุ่นเน้นพัฒนากลุ่มสินค้าใหม่ (New Product Line) ที่พร้อมตอบโจทย์การพัฒนาองค์กร อาทิเช่น บริการรถยนต์ไฟฟ้า (EV) สำหรับธุรกิจรถเช่าและรถดัดแปลง บริการจัดการพลังงานทางเลือกกลุ่ม Solar Maintenance บริการจัดหาแรงงานกลุ่ม CLMV เป็นต้น   

การมี Business Partner ที่ดีนอกจากจะสามารถช่วยให้องค์กรสามารถลดต้นทุนในการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพให้กับบุคลากร และสามารถมีผลตอบแทนที่มากขึ้นแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการช่วยให้องค์กรเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน  

“ Unlock Possibilities, SO Here We Are ปลดล็อคทุกความเป็นไปได้ เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ” 

@LINE : Consult Outsource

#SO #SIAMRAJCHATANE #UNLOCKPOSSIBILITIES #SOHEREWEARE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION

ติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับบริการต่างๆของเราได้ที่

contact

#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION

SO สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) บริจาคสมทบทุนให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

สยามราชธานี

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา คุณเนาวรัตน์ วิมลเฉลา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO บริจาคสมทบทุน จำนวน 400,000 บาท และเครื่องพ่นละอองยา จำนวน 80 เครื่อง ให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อใช้ในการสนับสนุนการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยในความดูแลของ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมไปถึงการบริหารงานต่างๆ ในมูลนิธิ โดยมี ผศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เป็นผู้รับมอบ 

เนื่องจากในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีค่ามลพิษทางอากาศหรือค่าฝุ่น pm 2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐานเป็นระยะเวลานาน ทำให้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนบริเวณโดยรอบและส่งผลกระทบรุ่นแรงในผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ อาทิเช่น โรคหอบหืด วัณโรค และ โรคหลอดลมอักเสบ ที่มีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาแบบเฉพาะทาง  

SO ได้เล็งเห็นความสำคัญในจุดนี้ โดยเฉพาะกับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดี เราจึงได้บริจาคสมทบทุน จำนวน 400,000 บาท เพื่อใช้ในงานของมูลนิธิ รวมไปถึงส่งมอบเครื่องพ่นละอองยา สำหรับผู้ป่วยทางเดินหายใจ จำนวน 80 เครื่อง ให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  

สยามราชธานี

ภารกิจสำคัญของมูลนิธิ 

  1. ให้การสนับสนุนการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยของคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมไปถึงกลุ่มผู้ป่วยที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงการรักษาเช่นผู้ยากจน ภิษุสามเณรและนักบวชในศาสนาต่างๆ
  2. ให้การสนับสนุนเรื่องการศึกษา การวิจัยและพัฒนา สวัสดิการของนักศึกษา ข้าราชการ รวมไปถึงพนักงานและลูกจ้างของคณะแพทย์ศาสตร์ มหาิทยาลัยเชียงใหม่ 
  3. สนับสนุนการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์รวมไปถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยต่างๆ เพื่อบรุงรักษาและพัฒนาสิ่งแวดล้อมในบริเวณคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 
  4. ดำเนินการเพื่อสาธารณธประโยชน์ และร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นๆ 
  5. สนับสนุนการพัฒนาบุคลากรทุกระดับของคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 
  6. ไม่ดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับทางการเมืองแต่อย่างใด 

ช่องทางการรับบริจาค  

บริจาคด้วยตัวเอง ห้องศาลาใต้ร่มพระบารมี การให้…ไม่สิ้นสุด ชั้น 1 อาคารสุจิณฺโณ 

  • วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.30 น. – 16.30 น. เว้นวันหยุด และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 

  – นัดรับมอบเงินบริจาค หมายเลขโทรศัพท์ 053-936-000 

ชั้น 1 โรงพยาบาลสงฆ์แห่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ 

  • วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.30 น. – 16.30 น. 
  • วันหยุด และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00 น. – 16.00 น. 

บริจาคผ่านบัญชีธนาคาร 

ธนาคารไทยพาณิชย์ 

– ชื่อบัญชี “มูลนิธิ รพ.สวนดอก คณะแพทย์ มช.” เลขที่บัญชี 566-4-04844-0 

– ชื่อบัญชี “มูลนิธิ รพ.สวนดอก เพื่อพระภิกษุสงฆ์ อาพาธ” เลขที่บัญชี 566-4-95594-8 

– ชื่อบัญชี “มูลนิธิ รพ.สวนดอก เพื่อผู้ป่วยยากไร้” เลขที่บัญชี 566-4-95596-4 

สามารถบริจาคเป็นเงินสด บัตรเครดิต หรือเช็คขีดคร่อม A/C PAYEE ONLY โดยสั่งจ่ายในนาม “มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก” 

หรือ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติบ คลิก “มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอกเป็นองค์การสาธารณกุศล ลำดับที่ 531 ตามประกาศกระทรวงการคลัง” 

@LINE : Consult Outsource

#SO #SIAMRAJCHATANE #UNLOCKPOSSIBILITIES #SOHEREWEARE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION

ติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับบริการต่างๆของเราได้ที่

contact

#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION

SO “Sustainable SOciety Initiatives สร้างสังคมส่งต่อความยั่งยืน” โรงเรียนวัดกาหลง จังหวัดสมุทรปราการ

Sustainable คืออะไร  

Sustainable หรือ Sustainable Development เป็นแนวความคิดในการพัฒนาที่นำไปสู่ความยั่งยืน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งต่อสิ่งดีๆไม่ว่าจะเป็น สังคมที่ดี อากาศที่บริสุทธิ รวมไปถึง ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ให้กับคนเจเนอเรชั่นถัดไป  

ภายใต้โครงการ “ Sustainable SOciety Initiatives สร้างสังคมส่งต่อความยั่งยืน “

บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์สที่มีพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีระดับโลก ใช้โมเดล Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจให้มีประสิทธิภาพแบบครบวงจรหนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ไทย ร่วมกับ บริษัท เอ็น-เทคโนโลยี คอนซัลแตนท์ จำกัด (EN-Technology Consultants Co., Ltd.) จัดกิจกรรม CSR ส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับน้องๆนักเรียน โรงเรียนวัดกาหลง จังหวัดสมุทรปราการ และชุมชนโดยรอบ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการลดมลพิษด้วยวิธีการแยกขยะ และ การทำน้ำหมักชีวภาพจากฮอร์โมนไข่เพื่อลดการใช้สารเคมีและค่าใช้จ่ายในครัวเรือน รวมไปถึงถ่ายทอดองค์ความรู้ในการสร้างรายได้จากบอกเล่าเรื่องราวของตนเองและชุมชนผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยพนักงานมืออาชีพของ SO

ส่งต่อองค์ความรู้และแก้ไขปัญหาของชุมชน  

 นอกจากกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนและคนในชุมชนได้เห็นถึงความสำคัญในการลดมลพิษ ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มช่องทางในการหารายได้แล้ว SO ยังเล็งเห็นถึงข้อจำกัดและปัญหาที่เกิดขึ้นภายในชุมชน ที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วย ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาน้ำท่วมขังภายในบริเวณโรงเรียนและวัดบ้านกาหลง ปัญหาระบบน้ำภายในโรงเรียนทั้งการอุปโภคบริโภค และค่าใช้จ่ายอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนเป็นต้น SO จึงได้จัดทีมเข้ามาแก้ไข ปรับปรุง และพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆภายในโรงเรียน เพื่อให้นักเรียน คุณครูแและบุคลากรภายในโรงเรียนรวมไปถึงผู้คนในชุมชนได้ใช้ประโยนต์ร่วมกัน อาทิเช่น  

  • แก้ไขระบบน้ำดื่มภายในโรงเรียนให้ถูกต้องตามหลักสุขลักษณะ  
  • ปรับปรุงระบบน้ำในแปลงผักสวนครัวของโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 
  • ปรับปรุงระบบน้ำและอาหารพร้อมเสริมกรงเลี้ยงไก่ไข่  
  • ปรับปรุงโรงเพาะเห็ด ให้สามารถใช้งานได้จริง 
  • และแก้ไขระบบระบายน้ำหลักของโรงเรียน  

นอจากนี้ SO ยังได้มอบสิ่งของอุปโภคบริโภคในการประกอบอาหารกลางวันเพิ่มเติมเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับทางโรงเรียน และยังได้มอบทุนการศึกษา ให้กับน้องๆนักเรียน เพื่อเป็น  


“ SO เชื่อว่าการมอบองค์ความรู้ให้กับคนรุ่นใหม่ควบคู่ไปกับการพัฒนาชุมชน เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่สังคมที่ยั่งยืน “


@LINE : Consult Outsource

#SO #SIAMRAJCHATANE #UNLOCKPOSSIBILITIES #SOHEREWEARE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION

ติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับบริการต่างๆของเราได้ที่

contact

#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION

SO ออกบูท Software Park CodeCamp เปิดโอกาสผู้เรียนจบหลักสูตรร่วมงานกับบริษัทชั้นนำกว่า 700 แห่ง

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา สมาคมโปรแกรมเมอร์ไทย ร่วมกับ Software Park CodeCamp จัดกิจกรรม Speed Dating Day ภายใต้โครงการ Programming Bootcamp แห่งแรกในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างโปรแกรมเมอร์คุณภาพและพร้อมทำงานได้จริง ทดแทนปัญหาขาดแคลนโปรแกรมเมอร์ในปัจจุบัน ซึ่งได้ดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 15 โดยกิจกรรมภายในงาน สยามราชธานี หรือ SO ได้ออกบูธ เพื่อเชิญชวนผู้เรียนที่จบหลักสูตรเข้ามาทำงานร่วมกัน พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เรียนจบหลักสูตรสามารถฝากประวัติและสัมภาษณ์เบื้องต้น โดยผู้เรียนทุกคนสามารถเลือกรูปแบบการทำงานได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น การทำงานในรูปแบบ Outsource หรือร่วมงานกับสยามราชธานีโดยตรง
 
ทั้งนี้ คุณณัฐพล วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ได้ขึ้นกล่าวเเสดงความยินดีแก่ผู้เรียนจบหลักสูตรว่า “ขอแสดงความยินดีในการจบหลักสูตรในครั้งนี้ คุณได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าในการพัฒนาตนเอง เราเล็งเห็นว่าทุกคนที่จบหลักสูตรเป็นคนพิเศษที่มีศักยภาพและพร้อมเป็นบุคลากรคุณภาพสู่ตลาดไอทีไทย” โดย SO เป็นผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์สที่มีพาร์ทเนอร์ชั้นนำระดับประเทศกว่า 700 บริษัท ที่ใช้ Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจให้มีประสิทธิภาพแบบครบวงจร หนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ไทย ทั้งนี้ คุณณัฐพล วิมลเฉลา ยังกล่าวทิ้งท้ายเพิ่มเติมว่า “ผมเอาใจช่วยให้ทุกคนได้พัฒนาตนเอง เเละพร้อมสนับสนุนโครงการดีๆ แบบนี้ เราพร้อมส่งมอบโอกาสเพื่อสร้าง IT Workforce พร้อมช่วยผู้ที่เรียนจบหลักสูตรนี้ได้มีโอกาสร่วมงานกับบริษัทชั้นนำที่เป็นพาร์ทเนอร์ของเรา”

@LINE : Consult Outsource

#SO #SIAMRAJCHATANE #UNLOCKPOSSIBILITIES #SOHEREWEARE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION

ติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับบริการต่างๆของเราได้ที่

contact

#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION

Outsource คืออะไร ทำไมบริษัทชั้นนำจึงเลือกใช้บริการ

Outsource คืออะไร

(เอ้าท์ซอร์ส) คือ การมอบหมายงานส่วนใดส่วนหนึ่งให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาทำงานแทน ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถลดต้นทุนในการดำเนินงาน และมีความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น มีเวลาในการ Focus กับงานหลักที่เป็น (Core Function) ของบริษัทมากยิ่งขึ้น นอกจากจะช่วยลดต้นทุนและภาระงานในส่วนต่างๆแล้วการใช้บริการ Outsource ยังตอบโจทย์เรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานที่มากกว่าการใช้กำลังคนภายในบริษัท ซึ่งในปัจจุบันธุรกิจ Outsource ไม่ได้มีแค่บริการในส่วนของการจัดหาบุคลากรมาทำงานแทนในตำแหน่งต่างๆเท่านั้น ยังมีบริการด้านการจัดการฐานข้อมูล การวางระบบการทำงานของแผนกต่างๆ การจัดหายานพหนะพร้อมระบบจัดการด้าน Logistic และการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมภายในองค์กร ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ทำให้บริษัทชั้นนำเลือกที่จะใช้บริการ Outsource มากขึ้นและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

การใช้บริการ Outsource ที่ตอบโจทย์การพัฒนาธุรกิจ

1.มีบริการใหม่ๆที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการขององค์กร

หลายองค์กรมีกลยุทธ์ในการดำเนินงานที่ต่างกัน ทำให้ความต้องการในการใช้ บริการ Outsource แตกต่างกันออกไป บวกกับในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันทำให้ทุกองค์กรยิ่งต้องปรับตัวเร็วยิ่งขึ้น จึงต้องการ solutions ใหม่ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการขององค์กร การเลือกผู้ให้บริการ Outsourcing service ที่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงาน จึงเป็นตัวเลือกแรกที่บริษัทชั้นนำเลือกใช้ เพราะจะมีการพัฒนาบริการใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นด้าน Multifunction workforce ที่มีความชำนาญเช่น บัญชี,It , programmer,ช่างเทคนิคและพนักงานขับรถ, ด้านการบริหารจัดการข้อมูลด้วยระบบ Cloud System พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูง รวมไปถึงยังมีความยืดหยุ่นสามารถปรับแต่งบริการต่างๆให้เข้ากับองค์กรได้อย่างลงตัว

2.สามารถช่วยให้องค์กรทำ Lean Organization

การทำ Lean Organization คือการลดขั้นตอนในการดำเนินงานที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในงานส่วนที่จำเป็นให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด การใช้บริการ Outsource จะช่วยตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เพราะการเลือกผู้ให้บริการ Outsourcing service ที่มีความชำนาญเข้ามาทำงานแทนจะสามารถทำให้องค์กรลดต้นทุนในการบริหารจัดการงานในส่วน “non-core business” อาทิเช่นงาน IT งานซ่อมบำรุง งานสรรหาบุคคล โดยที่ยังคงประสิทธิภาพในการทำงานตามมาตรฐานได้อย่างต่อเนื่อง และยังสามารถช่วยให้องค์กรได้พัฒนางาน core business ของตัวเองได้อย่างเต็มที่

3.ตอบสนองความต้องการขององค์กรได้อย่างรวดเร็ว

การใช้บริการ Outsource จะสามารถตอบสนองความต้องการขององค์กรได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หรือวางแผนโปรเจ็กต์ใหม่ ๆ ก็สามารถทำได้ง่ายกว่า เพราะการเลือกผู้ให้บริการ  Outsourcing Service ที่มีการนำ Solutions และ Platfrom ที่ทันสมัยเข้ามาช่วยออกแบบขั้นตอนในการทำงานไปจนถึงการรวมรวมข้อมูลต่างๆ ล้วนเป็นสิ่งจำเป็นในการทำธุรกิจ นอกจากจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำงานได้ง่ายมากขึ้นแล้ว ยังส่งผลให้องค์กรเกิดความคล่องตัวในการบริหารงานมากขึ้น ช่วยในการนำข้อมูลต่าง ๆ ไปพัฒนาแผนการดำเนินงานได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

4.ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

การใช้บริการ Outsource ในการเข้ามาทำงานส่วนต่างๆที่องค์กรไม่ถนัด นอกจากจะช่วยลดต้นทุนการทำงานต่างๆ ยังเป็นการลดความซับซ้อนของงาน ช่วยเพิ่มความสะดวกในการบริหารงานในส่วนต่างๆขององค์กร ทำให้องค์กรมีเวลาในการพัฒนาระบบการทำงานรวมไปถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของทีมภายในองค์กรได้มากขึ้น และยังเป็นการเพิ่ม Potential ในภาพรวมขององค์กรได้อีกด้วย

5.ทำให้องค์กรมีความยืดหยุ่น

บริษัท Outsource ที่มีประสบการณ์จะสามารถจัดหาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถตรงตามความต้องการขององค์กรภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อเทียบกับการสรรหาบุคลากรแบบทั่วไป ที่ต้องผ่านการคัดกรองและฝึกงานตามกฎหมายซึ่งก่อให้เกิดต้นทุนในการดำเนินการ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับโครงสร้างองค์ร ช่วยลดขั้นตอนในการจัดการปัญหาแรงงาน สามารถเลือกระยะเวลาในการใช้บริการได้ ไม่ว่าจะเพิ่มคน หรือ ลดคนในแผนกต่างๆก็สามารถทำได้ง่ายกว่า ช่วยลดต้นทุนทั้งด้านเวลา งบประมาณ ลดปัญหาด้านแรงงาน เพิ่มขีดความสามารถในการปรับโครงสร้างองค์กรได้อย่างรวดเร็ว


เกี่ยวกับสยามราชธานี หรือ SO

SO ผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์สแบบครบวงจร หนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย ที่นำ Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น และทาง SO ยังมีการเพิ่มศัพยภาพที่แข็งแกร่งอย่างไม่หยุดนิ่งด้วยการที่มีพันธมิตรทางธุรกิจหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรทั้งไทยและทั่วโลก เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า ด้วยบริการที่คลอบคุลมและพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการในการพัฒนาธุรกิจ ได้แก่

1. SO Next : โซลูชันด้านการ Lean & Digitization ปรับองค์กรให้คล่องตัวขึ้น โดยให้บริการด้านการจัดการข้อมูล (Data Solution) ด้านแพลตฟอร์มทางธุรกิจ เช่น Business Process Management และด้าน IT Outsource Operation เพื่อสรรหาบุคลากรด้าน IT

2. SO People : โซลูชันการจัดหาและบริหาร Workforce ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี เช่น พนักงานขับรถ, พนักงานธุรการ, พนักงานบัญชี ,ช่างเทคนิค รวมถึงบริการจัดหาแรงงานต่างด้าว เป็นต้น

3. SO Green : โซลูชันบริหารภูมิทัศน์ด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านพื้นที่สีเขียวและไม้ใหญ่ โดยทีมออกแบบและรุกขกรมืออาชีพ

4. SO Wheel : ผู้นำด้านรถดัดแปลงและรถเช่าเชิงพาณิชย์ พร้อมระบบติดตามและจัดการยานพาหนะที่สามารถแจ้งเตือนตำแหน่งรถ,อันตราการใช้ความเร็ว  รอบการ Maintenance ไปจนถึงระบบการจองรถส่วนกลางสำหรับองค์กรขนาดใหญ่อีกด้วย นอกจากการมุ่งเน้นพัฒนาบริการให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแล้ว SO พร้อมสานต่อความสำเร็จจากผลประกอบการในปี 2023 ที่เติมโตต่อเนื่องกว่า 30% ด้วยการยกระดับการให้บริการ สู่ Journey to Next-Level Outsourcing ในปี 2024 พร้อมดำเนินการผ่าน 3 Empower ได้แก่

Empower Brand เดินหน้าสู่ การเป็น Tech-enabled Outsourcing ด้วยการผสานเทคโนโลยีเข้ามาในทุกกระบวนการทำงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพของ SO ให้แข็งแกร่งและพร้อมส่งมอบบริการที่มีคุณภาพให้แก่ลูกค้าของเรา

Empower Sales ด้วยการ Up Skills สู่การเป็นที่ปรึกษากระบวนการทางธุรกิจ พร้อมนำเสนอทางเลือกใหม่ๆ ให้กับลูกค้า เพื่อตอบโจทย์ Pain Point และใช้ Outsouce ในการเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการพัฒนาองค์กร

Empower Operation พัฒนาระบบ Lean & Digitization เสริมแกร่งให้ทีมปฎิบัติการของ SO เพิ่มศักยภาพของทีม ให้สามารถบริหารโครงการได้อย่างรวดเร็วถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด

เพื่อมุ่งสู่การเป็น Strategic Partners ที่พร้อมส่งมอบ Solutions ที่ดีที่สุด ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของ SO และพาร์ทเนอร์ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน”


ปัจจุบันโลกมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ส่งผลให้ทุกองค์กรต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา การเลือกใช้บริการ Outsource อาจะไม่เพียงพอ เหล่าบริษัทชั้นนำหลายแห่งจึงมองหา Business Partnership ที่พร้อมทั้งด้าน Workforce และ เทคโนโลยี ที่สามารถช่วยในการวางแผนและปรับกลยุทธ์ในส่วนงานต่างๆ เพื่อเพิ่มความสามารถและประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้น พร้อมปรับตัวรับมือกับทุกความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

อ่านบทความ “บริหารองค์กรอย่างยั่งยืนด้วยกลยุทธ์ Outsource” เพิ่มเติม คลิก!!!

@LINE : Consult Outsource

#SO #SIAMRAJCHATANE #UNLOCKPOSSIBILITIES #SOHEREWEARE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION

ติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับบริการต่างๆของเราได้ที่

contact

#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION

SO กำไรทะลุเป้าต่อเนื่อง 9 เดือน เติบโต 30% พร้อมเผยกลยุทธ์ 2567 มุ่งเน้นบริหารความเสี่ยงอย่างมั่นคง และนำเทคโนโลยี RPA, AI ผสานบริการเอาท์ซอร์สดูแลลูกค้า

บริการเอาท์ซอร์ส

บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์สที่มีพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีระดับโลก ใช้โมเดล Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจให้มีประสิทธิภาพแบบครบวงจรหนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ไทย ผลประกอบการออกมางบ 9 เดือน กำไร 147 ล้านบาท เติบโตกว่า 30% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ การบริหารจัดการขายสินทรัพย์ให้เช่าที่หมดสัญญา การบริหารจัดการค่าใช้จ่าย และจากการ revert ค่าปรับที่ตั้งไว้เมื่อสิ้นปีก่อน นอกจากนี้ยังสามารถทำกำไรได้ในทุกสัญญากว่า 700 โครงการ บริษัทที่กระแสเงินสดเป็นบวกทุกไตรมาส สามารถจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารมองว่าธุรกิจตอบโจทย์เทรนของโลกในอนาคต และสามารถมองเป็นหุ้นปันผลที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ

จากสถานการณ์ปัจจุบันที่หลายบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ประสบปัญหาการบริหารหนี้สิน เช่น ปัญหาดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่ส่งผลกระโดยตรงต่อกำไรของบริษัท ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึงการบริหารการลงทุนที่ผิดพลาด ซึ่งอาจส่งผลให้กระแสเงินสดของบริษัทขาดสภาพคล่อง ไม่สามารถชำระหนี้สินรวมถึงหุ้นกู้ได้ตามกำหนด อย่างไรก็ตาม SO ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ปัจจัยหลักมาจาก SO เน้นบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ทั้งเรื่องการบริหารธุรกิจ การบริหารการลงทุนและการขยายกิจการ  

โดย SO ได้นำระบบ Enterprise Resource Planning หรือ ERP ที่พัฒนาขึ้นมาเองเพื่อรองรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจของของบริษัทโดยเฉพาะ ซึ่งจะทำให้เห็นภาพรวมของผลการดำเนินงานทุกโปรเจกต์ ทั้งสถานะการดำเนินการ และสถานะทางการเงิน 

นายณัฐพล วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO กล่าวว่า “ผลประกอบการของ SO เติบโตอย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี โดยเราสามารถทำกำไรได้ทุกปี ที่ผ่านมา เราเน้นการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการบริหารการปฏิบัติตามสัญญาให้ไม่มีค่าปรับ และใช้ Lean และเทคโนโลยีมาพัฒนาบริหารเอาท์ซอร์สอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ SO ไม่มีหนี้สินระยะยาว เรามีเพียงหนี้สินจากสัญญาเช่าซื้อสินทรัพย์เพื่อนำมาใช้ในธุรกิจให้เช่า ซึ่งสินทรัพย์ดังกล่าว มีสัญญาเช่ากับลูกค้าเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งเราให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล ซื่อสัตย์ โปร่งใส พร้อมมีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อพัฒนาภาคธุรกิจและสังคมให้ขับเคลื่อนไปอย่างยั่งยืน  

สำหรับกลยุทธเพื่อสร้างโอกาสเติบโตในปี 2567 เราตั้งเป้ารักษาฐานลูกค้าเดิมให้ได้อย่างน้อย 90% และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ โดยการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตของลูกค้าเรา (Strategic Partnership) พร้อมกับการบริหารการลงทุน ด้วยการขยายตลาดในสินค้ากลุ่มใหม่ (New Product Line) เช่น บริการรถยนต์ไฟฟ้า (EV) สำหรับธุรกิจรถเช่าและรถดัดแปลง บริการจัดการพลังงานทางเลือกกลุ่ม Solar Maintenance บริการจัดหาแรงงานกลุ่ม CLMV และเพิ่มการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีที่มาช่วยต่อยอดธุรกิจเอาท์ซอร์ส (Outsource) ของเรา เช่น เทคโนโลยี Robotic Process Automation (RPA) เทคโนโลยี Enterprise AI และเทคโนโลยี OCR ซึ่งเรามั่นใจว่าจะทำให้ผลประกอบการของ SO ในปี 2567 เติบโตอย่างต่อเนื่อง บนพื้นฐานความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัท พร้อมกับครั้งแรกในการทำ Corporate Branding ภายใต้คอนเซ็ปต์ Unlock Possibilities, SO Here We Areปลดล็อคทุกความเป็นไปได้ เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนสำหรับธุรกิจคู่ค้า และสร้างกำไรที่ยั่งยืนได้อย่างแน่นอน” 

เกี่ยวกับสยามราชธานี หรือ SO  

SO ผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์สแบบครบวงจร หนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย ที่นำ Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น โดย SO มีเป้าหมายภายใต้พันธกิจ Unlock Possibilities ปลดล็อคทุกความเป็นไปได้ เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนสำหรับธุรกิจคู่ค้า ทั้งนี้ SO ยังเพิ่มศัพยภาพที่แข็งแกร่งอย่างไม่หยุดนิ่งด้วยการที่มีพันธมิตรทางธุรกิจหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรทั้งไทยและทั่วโลก เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า โดยปัจจุบัน SO แบ่งการให้บริกาเป็น 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่ (1) SO Next : โซลูชันด้านการ Lean & Digitization องค์กรให้คล่องตัวขึ้น โดยให้บริการด้านการจัดการข้อมูล (Data Solution) ด้านแพลตฟอร์มทางธุรกิจ เช่น Business Process Management และด้าน IT Outsource Operation เพื่อสรรหาบุคลากรด้าน IT (2) SO People : โซลูชันการจัดหาและบริหาร Workforce ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี เช่น พนักงานขับรถ, พนักงานธุรการ, พนักงานบัญชี ,ช่างเทคนิค รวมถึงบริการจัดหาแรงงานต่างด้าว เป็นต้น (3) SO Green : โซลูชันบริหารภูมิทัศน์ด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านพื้นที่สีเขียวและไม้ใหญ่ (4) SO Wheel : ผู้นำด้านรถดัดแปลงและรถเช่าเชิงพาณิชย์ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.siamrajathanee.com 

@LINE : Consult Outsource

#SO #SIAMRAJCHATANE #UNLOCKPOSSIBILITIES #SOHEREWEARE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION

ติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับบริการต่างๆของเราได้ที่

contact

#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION#SO #SIAMRAJCHATANE #OUTSURCESERVICE #OUTSOURCE #OUTSOURCEIT #OUTSOURCESOLUTION #TECHENABLEDOUTSOURCE SOLUTION

SO ผนึก LAIYE ยักษ์ใหญ่ด้าน Intelligent Automation Platform ชูเทคโนโลยี RPA เพื่อรองรับการทรานส์ฟอร์มธุรกิจของพาร์ทเนอร์

SO จับมือ LAIYE

บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์สที่มีพาร์ทเนอร์ชั้นนำระดับประเทศ โดยใช้ Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจให้มีประสิทธิภาพแบบครบวงจร หนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ไทย จับมือกับ LAIYE ผู้นำด้านเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent Automation Platform) จากสิงคโปร์ ร่วมพัฒนานวัตกรรม Robotic Process Automation (RPA) เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ และเสริมศักยภาพของ Process การทำงานให้รวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำมากยิ่งขึ้น ทันต่อการแข่งขันในตลาดยุค Marketing 6.0

ที่ผ่านมา SO เน้นออกแบบกระบวนการและพัฒนา BPM Application ที่เหมาะสม เพื่อให้บุคลากรทำงานได้รวดเร็ว ลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน ทางฝ่ายวิจัยของ SO มองว่า RPA สามารถนำมาเสริมกระบวนการให้บุคลากรทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นแต่ใช้แรงและเวลาน้อยลง เช่น Project ล่าสุดที่ใช้ภายใน เพื่อให้คอมพิวเตอร์บันทึกและจัดเก็บประวัติแรงงานที่เข้ามากว่า 300 คนต่อวัน รวม 10,000 fields  โดยพนักงานคลิ๊กเมาส์เพียง 2 ครั้ง แล้วเอาเวลาที่เหลือไปทำงานอย่างอื่นแทน นอกจากนี้ SO ยังส่งมอบโซลูชันเกี่ยวกับ Business Process Outsourcing หรือ BPO แก่พาร์ทเนอร์มากมาย โดยใช้

 

บุคลากรและเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาช่วยบริหารงานและรับความเสี่ยงแทนลูกค้า เน้นกระบวนการที่มีความรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ และได้รับการรับรองมาตรฐานโดย ISO เช่น การจัดการเอกสารลูกค้า (Customer Onboarding) การจัดการกระบวนการเคลมและจำแนกข้อมูลทางการแพทย์ (Data Entry and Medical Coding) กระบวนการธุรการต่างๆ เช่น จัดซื้อ (Procurement), จัดการทรัพย์สิน (Asset Audit) และการรับคำร้อง (Change Request) เป็นต้น 

 

ทั้งนี้ SO มีความตั้งใจผลักดันนวัตกรรม Robotic Process Automation หรือ RPA เพื่อส่งมอบโซลูชันที่ดีที่สุดแก่พาร์ทเนอร์ โดย SO เป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมเอาท์ซอร์สที่ให้บริการคลอบคลุมทั้ง บริการด้าน Workforce บริการด้านรถเช่าและรถดัดแปลง บริการด้านการปรับภูมิทัศน์และดูแลไม้ใหญ่ และบริการด้านเทคโซลูชันทั้ง Data Entry และ Lean & Digitization โดยทุกๆ บริการของ SO ได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเพื่อรองรับการแข่งขันทางธุรกิจ และส่งมอบโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการสูงสุดของธุรกิจคู่ค้า 

นายณัฐพล วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO กล่าวว่า “เรามีพาร์ทเนอร์หลากหลายธุรกิจทั้งภาครัฐและเอกชน เราเห็นทั้งปัญหาและความต้องการของคู่ค้าเรารอบด้าน โดยความร่วมมือกับ LAIYE ครั้งนี้ เพื่อนำนวัตกรรม RPA มาช่วยพัฒนางานที่ต้องทำซ้ำๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยลดต้นทุนในระยะยาว อีกทั้งยังช่วยพัฒนาทักษะของพนักงานให้ได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ เรามั่นใจว่าจะส่งมอบโซลูชันที่ตอบโจทย์ทางธุรกิจ และพาร์ทเนอร์ของเราจะได้ประโยชน์สูงสุดจากความร่วมมือในครั้งนี้ 

 

Mr. Tauhid Abddul Jalil, General Manager (SEA) of Laiye Pte. Ltd. กล่าวว่า “LAIYE ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ SO ในการส่งมอบนวัตกรรม RPA เพื่อช่วยในการ Lean Process ในการทำงานให้มีความคล่องตัว ถูกต้อง และแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยเรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้พนักงานได้ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อเตรียมพร้อมในการปรับตัวในยุคที่ทุกคนมีโอกาสถูก Disruption ได้ตลอดเวลา” 

Partner : https://laiye.com/en